‘เพื่อไทย’ ยินดีขอขมา ‘ก้าวไกล’ อ้อนช่วยเทเสียงหนุนโหวตนายกฯ ฝ่าทางตันประเทศ ไม่แตะ112 ปัด ‘เปลี่ยนขั้ว’ ตั้งรัฐบาล แต่เป็นการ ‘สลายขั้ว’ ‘ชาติพัฒนากล้า’ ร่วมวงฟอร์ม รบ.ด้วย

         (9 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยจะขอหารือกับพรรคก้าวไกล เพื่อให้ช่วยโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยว่า การจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ ตนเสนอว่าให้จัดตั้งรัฐบาลแบบพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาประเทศไม่ใช่การเปลี่ยนขั้ว แต่เป็นการสลายขั้วทั้งหมด อยากให้ทุกคนร่วมกันหาทางออก เพราะนี่คือโอกาสในการทำให้ความขัดแย้งต่างๆ ที่มีอยู่ 20 กว่าปีสลายไป และเป็นโอกาสที่เราจะแก้ไขวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ประเทศขยับไม่ได้ รวมถึงแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน การที่จะสำเร็จได้ สิ่งสำคัญคือเราควรต้องดึงทุกพรรค ทุกฝ่ายมา
        นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล เราหวังว่าเราเสนอตัวนายกรัฐมนตรี คือนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เราหวังว่าจะเป็นแกนกลางในการดึงทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ในการสร้างประเทศไทยให้ลดความขัดแย้งลง และแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยชี้แจงอย่างชัดเจน ว่าต้องการทุกพรรคทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายไหนกลุ่ม สส.หรือ สว. ให้มาร่วมกันให้ความเห็นชอบ ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และส่งนายเศรษฐา เป็นนายกฯได้ เราจะเร่งแก้ไขปัญหาของประเทศหลายเรื่อง ดึงนโยบายที่ดีของทุกพรรคมาดำเนินการ หลายเรื่องที่เคยอยู่ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องที่อยู่ในนโยบายของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว หรือบางเรื่องที่พรรคก้าวไกลได้นำเสนอซึ่งเป็นสิ่งที่ดี รวมทั้งทุกพรรคที่อยากจะเข้ามาร่วมกัน และเรายืนยันว่าจะสร้างมิติทางการเมืองใหม่ เป็นมิติทางการเมืองที่ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลที่จะต้องแย่งกันทุกเรื่อง หากเห็นว่าอะไรดีที่ฝ่ายค้านนำเสนอก็นำมาปฏิบัติ อะไรที่เราทำแล้วผิดทำนองครองธรรม ฝ่ายค้านก็ตรวจสอบได้อย่างเข้มข้น เมื่อจุดยืนเป็นอย่างนี้ เราจึงจะเข้าหาทุกฝ่าย สำหรับการแถลงในวันนี้ (9 ส.ค.) จะมีในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมด้วย ส่วนพรรคเพื่อไทยรวมพลังแจ้งว่าขณะนี้อยู่ต่างจังหวัด ฉุกละหุกเกินไป ก็ไม่เป็นอะไร เพราะการแถลงวันนี้ก็ไม่ใช่ที่สิ้นสุด แต่จะมีการแถลงต่อไปเรื่อยๆ รายละเอียดจะเกิดขึ้น จนวันที่คิดว่าไปไม่ได้แล้ว เราจะแถลงต่อพี่น้องประชาชน
        นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับพรรคก้าวไกล เราได้ติดต่อประสานงาน และอยากจะใช้เวทีนี้ในการพูดคุยกันว่าวาระสำคัญของประเทศเป็นแบบนี้ หรืออยากจะทำให้ความต้องการของประชาชนบรรลุ เราอยากให้เขาร่วมในการแสดงเจตจำนงในการโหวตครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าอะไรที่เคยเป็นปัญหาที่อาจจะมีส่วนกับพรรคเพื่อไทยหรือกับตน
        “เรายินดีที่จะไปขอโทษ ขอขมา และยินดีที่จะไปแสดงความต้องการความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับทางออกวิกฤตของประเทศชาติ หรือจะให้ไปที่พรรคก้าวไกลเราก็ยินดี วันนี้เรายินดีไปทุกพรรคถ้าคิดว่าคือทางออกของประเทศ ฉะนั้นพรรคก้าวไกลที่เรากำลังจะไปพบก็กำลังหาวันอยู่ว่าจะไปวันไหน วันนี้เราคิดเรื่องใหญ่ของประเทศเป็นหลัก เราไม่ได้คิดเรื่องเล็กๆน้อยๆ หรือตัวบุคคลเป็นสำคัญ ฉะนั้น ถ้าเราอยากทำงานใหญ่จะต้องคิดใหญ่ด้วย ต้องมองข้ามความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไล่หนูตีงูเห่า หรือความขัดแย้งหลายๆ อย่าง ที่สำคัญคือต้องเอาวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้าแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ผมคิดว่าประเทศไทยคงนับหนึ่ง และเดินหน้าต่อไปได้” นายภูมิธรรม กล่าว
         เมื่อถามว่า ทางคณะเจรจาของพรรคก้าวไกลมีท่าทีอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เราติดต่อทุกพรรค และได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดีในจุดเริ่มต้น แต่จะมีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจกัน ส่วนเรื่องปัญหาความมั่นใจว่าเราจริงใจที่จะทำหรือไม่ ตนคิดว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยยินดีที่ยืนยันจะทำตามเจตจำนง ตัวเลขทางคณิตศาสตร์เห็นชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าวันนี้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เรามีทางเลือกไม่กี่ทาง และหลายทางเลือกถ้าจะทำให้รัฐบาลตั้งได้โดยยึดวาระประเทศเป็นที่ตั้ง ก็จำเป็นที่จะต้องเป็นไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมีต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งนั้น อาจจะมีเรื่องที่ประชาชนไม่สบายใจก็ได้ พรรคเพื่อไทยวันนี้เรายอมทุกอย่างที่จะทำได้ หวังว่าถ้าให้โอกาสเราได้พิสูจน์ด้วยการทำงานของเรา นายกฯของเรา และประสบการณ์ของเรา เชื่อว่า เราจะสามารถฝ่าวิกฤตเอาทุกอย่างมาทำงานให้ได้ เรายินดีร่วมกับทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายอิสระ และเรามีเรื่องเดียว คือเรื่องมาตรา 112 หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักเราจะไม่แตะต้อง เพราะเราคิดว่าเป็นจุดศูนย์รวมของประเทศ ถ้าเสนอเรื่องนี้มาเราคงเข้าร่วมไม่ได้
          เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าหากมีความจำเป็นให้ประเทศต้องเดินหน้าต่อไปได้ อาจต้องร่วมงานกับพรรคสองลุงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนพูดชัดเจนแล้วว่าวันนี้ เราพูดคุยกับทุกฝ่าย เราสลาย เราไม่มีขั้ว ไม่มีลุง วันนี้อะไรก็ได้ที่ร่วมมือกัน ทางที่ดีที่สุดคือให้ตอบสนองการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาของประเทศได้ และพยายามทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนสัมฤทธิ์ผลมากที่สุด
        “เท่าที่คุยทุกพรรคยังไม่มีใครบอกว่าไม่ร่วม ทุกคนบอกว่าอยากฟังรายละเอียด ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ การยอมรับอาจจะมีหลายระดับหลายเฉด ซึ่งสิ่งสำคัญคือการที่จะตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่เราขอให้เป็นการเมืองในมิติใหม่ไม่ใช่ห้ำหั่นซึ่งกันและกัน การเมืองที่ไม่ใช่ต้องค้านกันทุกเรื่อง โดยที่ไม่ทราบเหตุผล ผมคิดว่าถ้ายึดวาระประเทศไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล บางเรื่องก็ร่วมกันได้ บางเรื่องก็ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่” นายภูมิธรรม กล่าว
         เมื่อถามว่า การที่ต้องขอเสียงจากพรรคก้าวไกล แสดงว่าเสียงจาก ส.ว.ไม่พอใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเรียกร้องทุกฝ่าย ทั้งจาก ส.ว.ทุกคน สิ่งที่ตนเรียกร้องคือเรียกร้องเป็นรายบุคคล ทั้งกลุ่มการเมือง ทั้งพรรคการเมือง ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เราอยากจะให้จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะแก้ ปัญหาความขัดแย้งที่มีมา 20 ปี ซึ่งพรรคเพื่อไทยอาสา และมีต้นทุนที่ประชาชนต้องตรวจสอบ ถ้าทำไม่ได้อนาคตข้างหน้าประชาชนก็จะตรวจสอบ และตัดสินพรรคเพื่อไทยเอง
         เมื่อถามว่า จะเรียกแนวทางในการขอคะแนน ในการโหวตนายกฯ แต่ไม่ร่วมรัฐบาลนี้ว่าอย่างไร เพราะจะมีเส้นแบ่งระหว่างงูเห่าในบางพรรค นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคิดว่าเท่าที่คุยไม่มีใครเรียกร้องให้แบ่งกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งจะเห็นว่าการตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ไม่ได้ยินว่าใครจะเอากระทรวงไหน วันนี้เราพูดในฐานะแกนนำว่าเราไม่คุยเรื่องกระทรวงกับใคร ปัญหาแย่งกระทรวงกันก็ไม่เกิด
       “วันนี้เป็นการพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าเราจะเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ เพื่อไปทำงานในจุดที่ใช้วาระของประชาชน ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง สลายขั้วเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ เพราะความขัดแย้ง 20 ปี ก็เพียงพอแล้ว เราจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในครั้งนี้ผ่านไปให้ได้ ถ้าไม่ได้เราจะบอกพี่น้องประชาชนว่า พรรคเพื่อไทยได้ทำสุดความสามารถแล้ว สิ่งต่างๆหลังจากนั้นไม่ใช่พรรคเพื่อไทยคนเดียวที่จะรับผิดชอบ ผมว่าสังคมและประชาชนทั้งหมดจะต้องรับผิดชอบ ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ปัญหา ส่วนที่ใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา ผมว่าเราต้องอดทน ต้องทะนุถนอมกัน และได้ชี้แจงกัน” นายภูมิธรรม กล่าว
Advertisement