ทนายตั้ม ป้อนเหยื่ออินทรีย์เต่า มอบหลักฐานแผนผังส่วยเว็บพนัน จำแนกออก 3 กลุ่ม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อนำพยานหลักฐานคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master มามอบให้เพิ่มเติม พร้อมติดตามความคืบกรณีที่เคยร้องขอให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการได้รับเงินผลประโยชน์หรือไม่

นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาเพื่อเอาเหยื่อมาป้อนให้อินทรีย์ โดยตั้งใจนำหลักฐานมามอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ หรือ อินทรีย์เต่า หลังจากที่ไม่มีความคืบหน้าทางคดีของ ผบ.ตร. วันนี้จึงทำเเผนผังข้อมูลมามอบให้ ซึ่งแสดงให้เห็นเส้นเงินที่ได้จากส่วยเว็ปพนันออนไลน์ BNK Master เเละส่วยธุรกิจ 18 ประเภท ซึ่งเส้นเงินโยงไปถึง นายตำรวจหลายนาย โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์

นายษิทรา กล่าวว่า โดยเงินถูกโอนเข้าบัญชีม้า 2 บัญชี เป็นชื่อนายณัฐพงศ์ เเละนายคชาชาญ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มตำรวจที่โอนเงินเข้าบัญชีม้า เป็นเงินที่ได้มาจากการเก็บส่วย กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ได้รับการดูแลจากบัญชีม้า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับโอนเงินจากบัญชีของนายณัฐพงศ์ เเละนายคชาชาญ ซึ่งจะโอนให้ทุกเดือน และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่ทั้งโอนและทั้งรับ กล่าวคือไปเก็บเงินมาก่อน แล้วส่งเงินให้นาย จากนั้นนายก็จะทอนเงินให้ เรียกง่ายๆ คือเก็บส่วยให้นาย ส่วนแบ่งจะได้เท่าไหร่อยู่ที่นายจะเจียดให้ มากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่ความปราณีของเจ้านาย ซึ่งส่วยดังกล่าวมีจำนวนเงินมหาศาล เฉพาะบัญชีนายณัฐพงษ์ มีเงินโอนเข้า 800 ล้าน เชื่อว่าจะมีเงินหมุนเวียนทั้งระบบไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

นายษิทรา กล่าวอีกว่า วันนี้จะมาดูใจอินทรีย์เต่า ว่าจะกล้าดำเนินคดีกับ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตัวเองหรือไม่ เพราะบิ๊กต่อนั้นก็ไม่ธรรมดา ที่ผ่านมาเติบโตอย่างรวดเร็ว ถูกเลื่อนยศมาทุกปี 8 ปี 8 ตำแหน่ง ดังนั้นตนมองว่าอินทรีย์เต่าจะต้องปราบบิ๊กต่อ เพื่อให้สังคมดีขึ้น และให้ระบบเส้นสายนั้นถูกกำจัดไป เเต่ถ้าหากบิ๊กเต่ายังไม่ดำเนินการใดๆ จะถือว่าละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองเคยนำหลักฐานและข้อมูลต่างๆ มายื่นให้แล้ว แต่ไม่เคยได้รับการตอบกลับหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด วันนี้จึงนำข้อมูลมายื่นให้เพิ่มอีก ป้อนข้อมูลให้เรื่อยๆ จะป้อนให้จนจุก หลังจากนี้จะทำหรือไม่ทำก็อยู่ที่ตัวบิ๊กเต่า

“เหยื่อชิ้นนี้ถ้าหากอินทรีย์ไม่งับ เหยื่อก็จะเน่าคารังของอินทรีย์เต่า พอมันเน่ามันจะส่งกลิ่นไปยังคนในสังคม ว่า ปปป.ทำงานไม่ได้เรื่อง จึงขอให้บิ๊กเต่าทำอย่างตรงไปตรงมา อย่าประวิงเวลา ถ้าหากคดีนี้บิ๊กเต่าทำด้วยความซื่อตรง ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตนจะเรียกลูกพี่เต่าตลอดชีวิต”

ทนายตั้ม เผยต่อ โดยเมื่อวานตนเองได้มีโอกาสไปพบกับคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีเเต่งตั้งขึ้น นำโดย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ซึ่งตนก็ได้ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมและได้สอบถามถึงความคืบหน้า โดยตัวแทนของคณะกรรมการบอกว่าไม่สามารถปิดเเผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้ เพราะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปเเล้ว ไม่สามารถมีใครช่วยได้ ตนจึงคาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองจะเคยปรามาสว่าไม่ไว้ใจคณะกรรมการชุดนี้ แต่หลังจากที่มีการพูดคุยกันเมื่อวาน คณะกรรมการมีความสนใจ โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องเส้นเงิน จึงทำให้ตนเริ่มรู้สึกเชื่อมั่น

“ดังนั้นจึงขอให้ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะประชาชนคาดหวัง ถ้าหากดำเนินคดีเพียงคนเดียว แต่อีกคนไม่โดน ก็จะเข้าข่ายลักษณะมวยล้มต้มคนดู ส่วนกรณีที่บิ๊กโจ๊กมีการถอนฟ้องนายกรัฐมนตรีในเรื่อง ม.157 คาดว่าคงมีคนของนายก มาพูดคุยขอให้ถอนฟ้อง แต่ยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนในการเจรจาต่อรองใดๆ

โดยหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ทนายตั้ม พยายามโทรศัพท์หา บิ๊กเต่า เพื่อจะสอบถามว่าเหตุใดจึงไม่ได้อยู่กองบัญชาการ แต่ปรากฏว่าบิ๊กเต่าไม่รับสาย ทนายตั้มจึงนำหนังสือไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ชั้นล่าง หลังจากที่ทนายตั้ม ยื่นหลักฐาน ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป.เสร็จแล้วนั้น ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกรอบ

โดยนายษิทรา กล่าวว่า ตนเองได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ทราบว่าเรื่องหลักฐานที่ตนเองส่งไปก่อนหน้านี้นั้น ตำรวจได้ทำการประมวลผลทุกอย่างแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเรื่องความผิด เพราะถ้าให้ตำรวจยศพันตำรวจเอก ของ ปปป. ดำเนินคดีกับผบ.ตร มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ระหว่างที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ตนเองได้ยินเจ้าหน้าที่บางคนพูดขึ้นมาว่า ตอนนี้พยานหลักฐานครบถ้วนหมดแล้ว ต่อจากนี้ใครที่จะมาทำคดีต่อก็จะทำได้ง่าย เท่ากับว่าตอนนี้ อยู่ที่ว่าใครจะฟันความผิดเท่านั้น

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเรื่องไปถึง สตช.แล้ว จะต้องทำยังไงต่อ นายษิทรากล่าวว่า ตนเองจะต้องไปตามความคืบหน้า กับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องดูว่า บิ๊กต่าย จะสามารถปัดกวาดบ้านของตัวเองให้สะอาดได้หรือไม่

Advertisement