กรมศุลกากรสนธิกำลังตรวจยึด “เฮโรอีน” ส่งออกล็อตใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 50 ล้านบาท

       (27 ต.ค.66) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย (ศรภ.) และ สำนักงานพิทักษ์เขตแดนแห่งออสเตรเลีย ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดเฮโรอีนลักลอบส่งออกล็อตใหญ่และยาเสพติดอีกหลายประเภทลักลอบนํ้าเข้าและส่งออก รวมมูลค่า 50,904,000 บาท

        นายพันธ์ทอง กล่าวว่า เดิมทีขบวนการลักลอบนําเข้ายาเสพติดเหล่านี้มักจะขนมาเป็นล็อตใหญ่ผ่านทางเรือ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนวิธีโดยการลักลอบส่งผ่านพัสดุเร่งด่วน ซึ่งแบ่งส่งเป็นล็อตเล็กๆแต่ส่งหลายครั้ง อาทิซุกซ่อนในกรอบรูป ของเล่นเด็ก หนังสือทําอาหาร รองเท้า และรูปหล่อเรซิ่น เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยตลอดทั้งเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สามารถจับกุมได้ 11 เคส แบ่งเป็นลักลอบส่งออกจํานวน 9 เคส และลักลอบนําเข้าจํานวน 2 เคส ซึ่งมีทั้งเฮโรอีน โคเคน ไอซ์ ยาบ้า และ MDMA หรือ สารตั้งต้นยาเสพติด โดยยาเสพติดเหล่านี้ส่วนใหญ่ลักลอบนําเขามาจากประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคํา ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการส่งออกไปยังประเทศที่สาม เช่น ออสเตเลีย ไต้หวัน และเกาหลีใต้

          โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ระบุว่า การสังเกตว่าพัสดุแบบไหนถึงเข้าข่ายว่าอาจเป็นการลักลอบนําเข้ายาเสพติดคือดูที่ต้นทางกับปลายทางและลักษณะของกล่องพัสดุต้องสงสัยประกอบกับข้อมูลจากการข่าว ซึ่งหากตรวจสอบและไม่พบยาเสพติดเจ้าหน้าที่เองก็เสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องได้

         ด้านตัวแทนจากสำนักงานพิทักษ์เขตแดนแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า ยาเสพติดเหล่านี้หากหลุดไปก็จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ซึ่งทางกรมศุลกากรของออสเตเลีย ก็มีการดําเนินการจับกุมอยู่ตลอด ซึ่งทุกครั้งที่จับกุมได้ก็จะเป็นผลดีเพราะช่วยให้ยาเสพติดลดลงและไม่แพร่กระจายไปสู่เยาวชนภายในประเทศ อย่างไรก็ตามยาเสพติดถือเป็นปัญหาทั่วโลก ซึ่งออสเตเลียมีสถิติการใช้ยาไอซ์สูงสุดเป็นอันดับ 1 จึงต้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นประเทศไทย ในการปราบปรามปัญหายาเสพติดให้หมดไป

          ทั้งนี้กรมศุลกากรจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจยาเสพติดและจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการติดตามหาผู้กระทำความผิดอย่างทั้งผู้ที่ลักลอบนําเข้าและผู้ที่ลักลอบส่งออกต่อไป
Advertisement