เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 26 ก.ย. 65 ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถ.แจ้งวัฒนะ ทนายเจ-ปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้าพบและให้ปากคำพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เกี่ยวกับกรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ทนายเจได้เข้ามายื่นหนังสือร้องดีเอสไอให้ตรวจสอบว่า “กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์” นักแสดงชื่อดัง หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ Forex-3D เนื่องจากพบว่ามีดาวน์ไลน์ หรือลูกข่าย กว่า 14 รายในผังแชร์ที่มีการเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลมีเดีย
ความคืบหน้าล่าสุด ทนายปิยณัฐ เปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า วันนี้เดินทางมาเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะผู้กล่าวโทษ หลังจากที่ได้มายื่นเอกสารไปก่อนหน้านี้ โดยในวันนี้ตนยังจะขอให้ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอดำเนินการสืบสวนสอบสวนและเรียก กระทิง-ขุนณรงค์ , บอล-กัมมัญญ์ และโต๋-ศักดิ์สิทธิ์ มาให้ปากคำด้วย
ทนายปิยณัฐ เผยอีกว่า ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีกระแสข่าวว่า เนื่องจากไม่มีผู้เสียหายเข้าเเจ้งความร้องทุกข์ จึงยังไม่สามารถเอาผิดกับกลุ่มดาราได้นั้น ตนมองว่าตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว หากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยง ทางดีเอสไอก็จะต้องมีการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ มาสืบสวนในเรื่องของเส้นทางการเงิน ความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้บริหาร ว่ามีผลประโยชน์ต่างตอบแทนด้วยกันหรือไม่ เพื่อให้สิ้นกระแสความสงสัยของสังคม อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มดารายืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหล่าผู้บริหาร และย้ำว่าเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเช่นเดียวกัน เหตุใดเมื่อปี 2562 จึงไม่ออกมายืนเคียงข้างกลุ่มผู้เสียหาย
นอกจากนี้ ทนายปิยณัฐ เผยต่อว่า สำหรับในส่วนของดาวน์ไลน์ของกลุ่มนักแสดงดังกล่าว ตนจะขอให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเชิญผู้เสียหายเหล่านี้ที่เป็นดาวน์ไลน์มาให้ปากคำด้วย แม้ว่าทางกลุ่มนักแสดงจะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นการชักชวน แต่เป็นเพียงการแนะนำก็ตาม แต่เมื่อปรากฏการกระทำความผิดหรือมีข้อสงสัยที่มีความผิดต่ออาญาแผ่นดิน ตรงนี้ใครก็สามารถมาร้องเรียนกล่าวโทษได้ อย่างเช่นตนที่มาในฐานะตัวแทนผู้เสียหายและทนายความที่ติดตามทำคดีนี้มาตั้งแต่เริ่ม ส่วนข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือ ชักชวนให้ผู้อื่นร่วมลงทุนในแชร์ลูกโซ่ ความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ทั้งนี้ หากหลังจากที่พนักงานสอบสวนมีการสอบสวนแล้วไม่พบการกระทำความผิด ตนก็น้อมรับ แต่อย่างน้อยก็เพื่อให้สิ้นกระแสสังคม
Advertisement