หน้าแรก บล็อก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งขยายผล แก็งค์คนจีนปลอมพาสปอร์ตหลอกธนาคาร รอถอนเงินกว่า 176 ล้านบาท

0
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.66 สน.ทองหล่อได้รับแจ้งจากธนาคารกสิกรไทย สาขาเอ็มควอเทียร์ ว่ามีบุคคลต่างด้าวใช้เอกสารเดินทางปลอมมาใช้ในการขอทำสมุดบัญชีใหม่ จึงได้ไปตรวจสอบและพบว่า มีการใช้เอกสารเดินทางปลอมเป็นเจ้าของบัญชี ซึ่งในบัญชีดังกล่าวมีเงินมากถึง 176 ล้านบาท กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวเพื่อขยายผลจับกุมโดยเร่งด่วน รวมทั้งตรวจสอบที่มาของเงินในบัญชีดังกล่าวว่า เงินจำนวนมากซึ่งมีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ เช้ามาอยู่ในราชอาณาจักรได้อย่างไร พฤติกาณ์กล่าวคือ ตามวันเวลาเกิดเหตุ ได้มีกลุ่มคนไทยจำนวน 4 คน พร้อมด้วยชาวกัมพูชา 1 คนซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบัญชีดังกล่าว ได้นำเอาเอกสารเดินทางสัญชาติกัมพูชา เข้ามาติดต่อกับธนาคารเพื่อที่จะขอทำสมุดบัญชีเล่มใหม่ เพื่อจะใช้ในการถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าวได้ในอนาคต แต่ปรากฎว่าใบหน้าของชาวกัมพูชาดังกล่าวไม่ตรงกับใบหน้าของบุคคลเจ้าของบัญชี ธนาคารจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อมาตรวจสอบ จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้มีความพยายามหลายครั้งในการมาขอถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าว แต่ไม่สามารถหาเอกสารตามที่ธนาคารต้องการมายื่นได้ ในส่วนของบัญชีดังกล่าวตรวจสอบทราบว่า มียอดเงินในบัญชีสูงถึง 176 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการทยอยโอนเงินสูงถึงหลักล้านบาทเข้าในบัญชีหลายครั้งตั้งแต่ปี 2561 คาดว่าจะเป็นเงินที่ได้จากกลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ อยู่ในระหว่างสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ในเบื้องต้นได้มีการจับกุมดำเนินคดีชายชาวกัมพูชาดังกล่าว ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้างหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เงินในบัญชีดังกล่าว คาดว่าเป็นเงินของกลุ่มแก๊งค์ชาวจีนซึ่งกระทำผิดแล้วโอนเงินมารวมไว้ในบัญชีดังกล่าว ก่อนที่จะใช้ความพยายามในการถอนเงินออกจากบัญชีโดยการปลอมเอกสารเดินทางขึ้นมา ในชั้นนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลจับกุมคนไทยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งทราบว่ามีบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่มีส่วนร่วมด้วย ทั้งนี้หากพบผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดดังกล่าว จะให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด

รวบหนุ่มใหญ่หัวร้อน หนีคดีฆ่าหมกศพริมบ่อกุ้ง เหตุฉุนคนตายลักจับปลาในบ่อ

0
จากกรณีที่เมื่อคืนนี้ พ.ต.ต.จิรภัทร บุญนำ สารวัตร สังกัดกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมแฟนสาว ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง โดยให้ชุดสืบสวนนครบาลเดินทางไปรับตัวที่ อ บางละมุง จ.ชลบุรี ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 9:40 พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้ควบคุมตัว พ.ต.ต.จิรภัทร ไปยื่นคำร้องขอฝากขังผัดเเรกเป็นเวลา 12 วันต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ / ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นฯ / และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 โดยพนักงานสอบสวนยื่นท้ายคำร้องคัดค้านประกันตัว เนื่องจากมีเหตุควรเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานเเละก่อเหตุภยันตรายประการอื่น เเละมีพฤติการณ์ขัดขืนไม่มาพบตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา อีกทั้งมีการรวมกลุ่มกันเพื่อเตรียมการหลบหนีไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ประกอบกับคดีมีอัตราโทษสูงและผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยร่วมกันกระทำความผิดหลายคน ซึ่งเป็นการกระทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์ขององค์กร เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ประกอบกับผู้เสียหายเป็นหญิงซึ่งเกิดความหวาดกลัวเกรงว่าจะได้รับอันตราย ทั้งนี้ ระหว่างควบคุมตัวขึ้นรถ พ.ต.ต.จิรภัทรมีสีหน้าท่าทีที่เคร่งเครียดและไม่ตอบคำถามใด ๆ ของสื่อมวลชน ด้าน พ.ต.อ.นราวุฒิ รักษาวงศ์ ผกก.สน.ดินแดง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหายังคงมีอาการเครียดตลอดการสอบปากคำเมื่อคืนที่ผ่านมา และผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ โดยผู้ต้องหาขอให้การในชั้นศาล ส่วน น.ส.ธันยพร พัธโนทัย แฟนสาวของ พ.ต.ต.จิรภัทร ที่เข้ามอบตัวพร้อมกันตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมืองในข้อหาให้ที่พักพิงหรือสนับสนุนช่วยเหลือผู้ก่อเหตุรุนแรง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ได้ส่งตัวไปให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้องดำเนินคดีตามหมายจับแล้วเมื่อคืนนี้...

ชูวิทย์ซัดทนายตั้มเป็นตัวแทนเว็บพนันเหมือนสันธนะ ย้ำบริจาคเงิน รพ.ไม่เป็นการฟอกขาว พร้อมต่อสายตรงทนายอนันตชัย ยันฟ้องร้องแน่

0
เมื่อเวลา 13.00น. วันที่ 24 มี.ค.ที่ซอยเฉยพ่วง เขตจตุจักร นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ลงพื้นที่ขึ้นรถติดเครื่องขยายเสียง รณรงค์การต่อต้านนโนบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย พร้อมแจกเสื้อยืดให้กับประชาชน ก่อนแถลงข่าวชี้แจงกรณีโรงพยาบาลศิริราช เตรียมดำเนินการคืนเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาทของนายชูวิทย์ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง นายชูวิทย์ กล่าวภายหลังทำกิจกรรมว่า วานนี้มีผู้ใหญ่ในวงการการเมืองที่ตนเคารพ บอกให้หาทางลงได้แล้ว แต่ตนยืนยันจะสู้ต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว เพราะยังมีอีก 2 เรื่องที่ตนต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครทำ คือ 1.การรณรงค์เรื่องต่อต้านกัญชาเสรี ซึ่งมีพรรคการเมืองพยายามฟ้องร้องตน ทั้งที่ เยาวชนอาจมีแนวโน้มจะเริ่มเสพกัญชาและไปใช้ยาเสพติดชนิดอื่น 2.การคอรัปชั่น มีการซื้อขายเสียงนักการเมือง ตนจะทำกิจกรรมเช่นนี้ไปตลอด พร้อมยินดีขึ้นศาลตามวิถีประชาธิปไตย ยืนยันว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำในนามส่วนตัว พร้อมยินดีพลีชีพ นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้มอบหมายทนายความดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีกระบวนการทำลายล้างตน ลูกตน รวมถึงทรัพย์สิน จึงขอถามกลับไปยังนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มว่าสิ่งที่ทำไปนั้น เป็นไปในนามสารวัตรซัวหรือไม่ เพราะทนายตั้มก็เป็นตัวแทนของเว็บพนันออนไลน์เช่นเดียวกับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ ที่มักจะออกมาแสดงตัวเวลาตนแฉธุรกิจสีเทา หากทนายตั้มเก่งจริงต้องไปฟ้องศาลหรือแจ้งความ ไม่มาใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ ซึ่งเรื่องของทนายตั้มนั้น ให้สอบถามลูกน้องของนายตำรวจใหญ่ระดับผู้กำกับ นายชูวิทย์ ยังต่อสายโทรศัพท์ถึงทนายอนัตตชัย ไชยเดช พร้อมยืนยันจะฟ้องร้องทนายตั้ม ในฐานะทนายความของนายชูวิทย์...

รวบหนุ่มหื่นข่มขืนเด็กสาววัย 17

0
วันที่ 25 มี.ค. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบ.กป. คำสั่งของ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนาราย.5 บก.ป.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสระ สว.ก.5 บก.ป. นักโทษประหารเมธ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอนุญาต ที่ จ.584/2565 ลงวันที่ 11 ต.ค. 2565 ข้อหา “กระทำการทารุณกรรมผู้อื่นด้วยกำลังประทุษร้าย” ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ยิ่งไปกว่านั้นจากปี 2565 ทดสอบเมธได้ตีสนิท น.ส.จี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ให้กับพื้นที่จ.ภูเก็ต ผู้ปกครองออกไปทำธุระนอกบ้านจึงทำทีขอมาที่บ้านพัก เมื่อมาถึงจะกลับมาใช้กำลังบังคับห้ามไม่ให้ทำตามต่อไปนี้เมื่อผู้ปกครองของน.ส.จี๋เป็นครั้งแรกที่บ้านลูกสาวสาวมีความผิด ออกมาจึงเค้นถามจนทราบความจริง ก่อนพาเข้าแจ้งความขอให้ สภ.ถลางจนไม่ต้องออกหมายจับเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบตัวอย่างที่ผ่านมา กำลังตามข้อตรวจตัวได้ ผู้สอบสวนก่อนหน้านี้เมธเพิกเฉย แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ดังนั้นขอให้ส่ง สภ.ถลาง ดำเนินการต่อไป

ร้องตำรวจ ปปป. ตรวจสอบ 2 สมภารวัดญวน ซื้อ-ขายที่ดินวัดโดยมิชอบ

0
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มี.ค. ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พา นายสามารถ และนายมานวรรธน์ สุธรรมพิทักษ์ โยมอุปัฏฐากผู้บริจาคที่ดินสร้างวัดธรรมปัญญาราม (บางม่วง) เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.กิตติกร วงศ์สุนทรทรัพย์. สว.สอบสวน.กก.4.บก.ปปป. เพื่อแจ้งดำเนินคดีพระคณานัมธรรมเมธาจารย์ เจ้าคณะใหญ่อนัมนิกาย เจ้าอาวาสวัดสมณานัมบริหาร และ พระพิสิษฐ์ ศรีวิชา ผู้ช่วยปลัดขวาอนัมนิกาย เจ้าอาวาสวัดธรรมปัญญาราม (บางม่วง) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และ 157 ประกอบด้วย มาตรา 86 นายอนันต์ชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่าเจ้าอาวาสวัดธรรมปัญญาราม (บางม่วง) สร้างกุฏิรุกล้ำลำคลองสาธารณะ และจัดสร้างโรงครัวโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงยังนำเงินวัดไปซื้อที่ดินในพื้นที่ ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม เนื้อที่ 2ไร่ 2 งาน ราคา 1.5 ล้านบาท โดยใส่ชื่อของเจ้าอาวาส ก่อนนำไปขายต่อให้บุคคลที่สาม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง ก่อนจะมีการร้องเรียนต่อไปยังเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ...

รองผบ.ตร.ประชุมหารือไตรภาคีว่าด้วยการค้ามนุษย์

0
  วันที่ 20 มีนาคม 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมหารือไตรภาคีว่าด้วยการค้ามนุษย์ ซึ่งจัดขึ้นโดยสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ สํานักงานตํารวจแห่งชาติสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีพล.ต.ท. หนิว ไฮ่ เฟิง รองอธิบดี กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พล.ต.ต.อ่อง อ่อง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา, พลจัตวา อ่อง เท มิน หัวหน้าหน่วยปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนผู้แทนจาก 3 หน่วยงาน เข้าร่วม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ ในปัจจุบันนี้ นับว่าเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่มีความเชื่อมโยง กับหลายประเทศ และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นการยาก ที่จะทำการ ป้องกันและปราบปราม โดยเพียงเจ้าหน้าที่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง ดังนั้น ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงจำเป็นที่จะต้อง ได้รับความร่วมมือ ทั้งจากประเทศต้นทาง ประเทศทางผ่าน และประเทศปลายทาง จึงเป็นที่มาของการประชุมหารือไตรภาคีว่าด้วยการค้ามนุษย์ โดยการประชุมไตรภาคีในครั้งนี้ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของทั้งสามประเทศที่จะได้ร่วมกัน วางแผนยุทธศาสตร์ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างตรงจุด และจะนำไปสู่ ความสำเร็จในการป้องกันและปราบปรามที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ตลอดจน จะเป็นการเสริมสร้าง...

ป.จับนายหน้าแสบ เปิดเพจหลอกรับจำนำรถ ก่อนส่งเต็นท์ขายต่อ พบมีหมายจับติดตัว 8 คดี

0
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป.พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์ สว.กก.4 บก.ป.จับกุม นายสมพงษ์ เกิดโภคา อายุ 34 ปี ตามหมายจับ ศาลแขวงพิษณุโลก ที่ จ.85/2562 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ข้อหา “ร่วมกันยักยอกทรัพย์” และหมายจับในคดีลักษณะดังกล่าวรวม 8 คดี ได้บริเวณลานจอดรถรีสอร์ทในพื้นที่ ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทั้งนี้ นายสมพงษ์ ผู้ต้องหา ได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก รับจำนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด หากผู้เสียหายไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ ก็จะนำรถไปขายต่อให้กับเต็นท์ที่รู้จัก สนิทสนมในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียง จากนั้นเต็นท์รถดังกล่าวก็จะนำรถไปขายต่อทั้งภายในประเทศและลักลอบนำออกไปขายนอกประเทศ ผู้เสียหายจึงกระจายเข้าแจ้งความหลายท้องที่ จนศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าปัจจุบัน นายสมพงษ์ ได้หนีไปกบดานในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จึงเข้าจับกุมได้ดังกล่าว สอบสวน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่า ตนเองเป็นเพียงนายหน้า ส่งต่อให้กับนายทุน ได้ค่าตอบแทน...

“รวบกลางสนามบิน คุณยายวัย70 รับเปิดบัญชีม้าให้แก๊งโรแมนซ์สแกม เหยื่อสูญเงินมหาศาลกว่า 42 ล้าน อ้างเปิดให้เพื่อนต่างชาติ ไม่รู้นำไปใช้ก่อคดี”

0
วันที่ 18 มี.ค.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.สั่งการให้พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก.ปอท.พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.2 บก.ปอท.พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ, พ.ต.ท.ธนะ ว่องทรง รอง ผกก.2 บก.ปอท.เข้าจับกุมน.ส.จิริสุดา กลิ่นสุคนธ์ อายุ 70 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2102/2565 ลงวันที่ 30 ก.ย. 2565 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” ได้ภายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ทราบว่า ระหว่างปี 2559 - 2563 น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายสัญชาติอเมริกันรายหนึ่ง ทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ได้ตกเป็นเหยื่อขบวนการหลอกให้รัก หรือ Romance Scam ที่มีการสร้างบัญชีสื่อออนไลน์ ใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มต่างชาติ หน้าตาดี อาชีพการงานมั่นคง อ้างว่าต้องการที่จะย้ายมาใช้ชีวิตร่วมกับผู้เสียหาย ระหว่างนี้คนร้ายก็ใช้กลอุบายหว่านล้อมผู้เสียหายต่างๆนาๆจนตกหลุมรัก ให้ความไว้วางใจ ต่อจากนั้นจะใช้อุบายว่าจะส่งทรัพย์สินมีค่าต่างๆมาให้ ซึ่งจะต้องเสียค่าดำเนินการ ผู้เสียหายที่หลงเชื่ออยู่แล้ว จึงยอมโอนเงินให้กลุ่มคนร้ายไปหลายครั้ง รวมแล้วกว่า 42...

อัจฉริยะร้อง ผบ.ตร.ให้ตั้ง “บิ๊กโจ๊ก” สอบตำรวจ ภ.1และตำรวจ จ.สมุทรปราการ เรียกเก็บเงินเจ้าของบ่อน สูญเงินหลายล้าน

0
วันนี้ (17 มี.ค.66)นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม   น้ำเอกสาร เป็นรายชื่อข้าราชการตำรวจ ตั้งยศ พ.ต.ท.-พล.ต.ต. รวม6-7 นาย พร้อมรายชื่อผู้ประกอบการบ่อน7ราย  เข้าร้องเรียนพล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์  ผบ.ตร. ให้ตั้งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รอง ผบ.ตร.  เป็นหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ากลุ่มนายตำรวจดังกล่าวมีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการบ่อนจริงหรือไม่ โดยนายอัจฉริยะ  เปิดเผยว่า ได้มีกลุ่มนายตำรวจซึ่งอ้างตัวว่าเป็นหน้าห้องผู้บัญชาการภาค6-7นาย ได้รับไฟเขียวจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ให้ผู้ประกอบการบ่อนสามารถเปิดบ่อนได้ในพื้นที่  สภ.บางบ่อ สภ.สำโรงเหนือ สภ.เมือง  สภ.บางเสาธง สภ.บางพลี  รวม18บ่อน  แต่ต้องแรกกับการเรียกเก็บเงินบ่อนละ 3-4ล้านบาท ต่อเดือน  แต่กลับเปิดได้เพียงแค่ 2-3วัน  ตำรวจก็สั่งปิด ผู้ประกอบการจึงพยายามจะขอเงินคืน ซึ่งผู้การจ.สมุทรปราการก็รับปากว่าจะคืนเงินให้ แต่สุดท้ายไม่ยอมคืนเงิน แต่ใช้วิธีให้เปิดเพิ่ม15วัน ระหว่างนั้นก็ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาปล้นบ่อน3ที่  ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้เงินไปกว่า50ล้านบาท จากนั้นบ่อนก็ถูกตำรวจ สั่งปิดอีกครั้ง ทั้งนี้มีผู้ประกอบการมาร้องเรียนกับตนจำนวน7ราย โดย 6รายเคยมีประวัติทำบ่อนอยู่ในนครบาล ส่วนอีก1ราย เป็นนั่งเล่น ที่ผันตัวอยากทำบ่อนเอง โดยมีชุดหน้าห้องผู้บัญชาการภาค1เป็นคนคอยแนะนำ พร้อมทั้งหาสถานที่  อุปกรณ์ และเจ้ามือให้  ตนยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนได้เสียกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และไม่ได้เป็นการขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการบ่อนในพื้นที่   แต่เป็นเพราะว่าตำรวจหลอกเงินผู้ประกอบการให้มาเปิดบ่อน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้...

“คอมมานโด-สำนักงานพุทธฯ บุกรวบพระครูกลางสำนักสงฆ์เมืองเชียงใหม่ หลังหลบหนีคดีชำเราเด็ก13 ศาลสั่งจำคุก6ปี “

0
วันที่ 17 มี.ค.พล.ต.ต.ศุภากรณ์ จันทาบุตร ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ สั่งการ พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปพ.พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา เชียงใหม่ เข้าจับกุมตัวพระครูสมุห์ปัญญาวุธ หรือนายปัญญาวุธ ยศเมืองใจ อายุ 42 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดเทิงที่ 56/2556 ลงวันที่ 2 ส.ค.2556 ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และพรากผู้เยาว์ฯ” จากการจับกุมทราบว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2553 ผู้ต้องหาร่วมกับพวกซึ่งเป็นพระด้วยกัน ได้พาตัวด.ช.บอย(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ที่รู้จักคุ้นเคยกันดีไปอยู่ที่วัดบ้านเหล่า อ.เทิง จ.เชียงราย ระหว่างนี้ก็ร่วมกันข่มขืนกระชำเราด.ช.บอยหลายครั้ง จนภายหลังผู้ปกครองของเด็กทราบเรื่องก็รีบมารับตัวกลับบ้าน จากนั้นก็เข้าแจ้งความที่สภ.เทิง ก่อนมีการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาศาลจังหวัดเทิง มีคำพิพากษาลงโทษ จำคุกผู้ต้องหาเป็นเวลา 6 ปี ศาลอุทธรณ์ก็มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คงจำคุก 6 ปีเช่นกัน ปรากฏว่าระหว่างนี้ผู้ต้องหากลับหลบหนีไปพักอยู่ตามวัดต่างๆ ที่รู้จักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าหลบหนีมาอยู่ที่สำนักสงฆ์ดอนแก้วโพธิญาณ อ.ดอยสะเก็ด...
435,670แฟนคลับชอบ
1,700ผู้ติดตามติดตาม
418,000ผู้ติดตามติดตาม
8,011ผู้ติดตามติดตาม