เสียค่าปรับขายกุ้งหน้าทำเนียบ ชุลมุนเล็กน้อยเรื่อง ตร.นอกเครื่องแบบ แยกย้ายรอฟังกิจกรรมครั้งหน้า

           วันที่ 26 ธันวาคม 63 ที่สน.ดุสิต นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้ากลุ่ม we volunteer หรือ wevo ได้เปิดเผยภายหลังเกิดเหตุชุลมุนบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลในภารกิจขายกุ้งช่วยพ่อค้าแม่ค้าว่า ตนยอมรับมีเหตุชุลมุนเกิดขึ้นจริง ส่วนจะมีใครชกต่อยหรืออย่างไรก็ให้ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งทางเราก็มีหลักฐานเป็นคลิปวีดิโอ ก็จะต่อสู้ตามกระบวนการ ส่วนเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากกลุ่มการ์ดพบชายพกอาวุธปืนเข้ามาในพื้นที่ จึงเข้าไปล็อคตัวไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือเป็นมือที่ 3 แต่เชื่อว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เพราะขณะการ์ดเข้าล็อคตัวนั้นชายดังกล่าวพยายามจะชักอาวุธปืน พอถูกล็อคตัวชายคนนั้นก็ส่งอาวุธปืนให้ตำรวจในเครื่องแบบที่อยู่บริเวณในทำเนียบ
           ทั้งนี้ทางกลุ่มได้ขอให้ตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุดว่าชายดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการทางวินัยและอาญา คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 วัน
          นอกจากนี้ตนได้มาเสียค่าปรับเรื่อง พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงที่ไม่ได้ขออนุญาต จำนวน 200 บาท รวมถึง เปรียบเทียบปรับตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ จำนวน 1,000 บาท ส่วนตำรวจจะดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ชุมนุมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

            จากนั้น นายปิยรัฐ ได้กล่าวกับการ์ด wevo ที่เดินทางมาที่สน.ดุสิตด้วยว่า หลังเข้าพบ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 ได้ชี้แจงว่ามีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอยู่ในสถานที่กิจกรรมจริง ส่วนเหตุชุลมุนนั้น เกิดจากการที่การ์ดwevo เข้าล็อกตัวชายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคนดังกล่าว เพราะเห็นว่ากำลังยื่นอาวุธปืนให้ตำรวจในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมองว่าไม่สมควร หากเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบก็ไม่ควรพกพาอาวุธ ซึ่งตนจะไปหาหลักฐานมาประกอบข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ ก็ขอให้มวลชนแยกย้ายกันกลับ ขอให้ติดตามภารกิจต่อไป
          ด้าน พ.ต.อ.อรรถวิทย์ กล่าวว่า ชายคนดังกล่าวที่นายปิยรัฐอ้างถึงนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจริง จึงแต่งกายในชุดนอกเครื่องแบบ ซึ่งก่อนเกิดเหตุกระทบกระทั่ง เจ้าหน้าที่นายนี้ได้เข้าไปห้ามการ์ดวีโว่ที่เข้ามาผลักผู้บังคับบัญชาของตนเองที่กำลังเข้าไปห้ามผู้ชุมนุมขณะฉีดสีสเปรย์ลงพื้นถนน แต่การ์ดอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมือที่สาม จึงผลักเจ้าหน้าที่นายนี้ แต่ไม่ได้มีการชกต่อยกัน อาจเป็นความเข้าใจผิด ซึ่งหลังเกิดเรื่องก็ได้มาเคลียร์กันจบไปแล้ว
Advertisement