เกิดเหตุยิงกันภายในกรมยุทธศึกษา​ เสียชีวิต​ 2 ราย เจ็บ 1 ราย

          (14 ก.ย.)​ เมื่อเวลา 09.00 น. มีรายงานจากศูนย์วิทยุผ่านฟ้า รับแจ้งเหตุะเลาะวิวาทมีผู้บาดเสียชีวิตภายในกรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. เบื้องต้นมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุยังถืออาวุธปืนอยู่ในมือ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืน​จำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ระหว่าง ลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้ง1ราย นำส่ง รพ.วชิระ อีกรายคาดว่าเสียชีวิต เนื่องจากถูกยิงที่ศรีษะ

          ด้าน​นาง​สุธิลักษณ์​ ครองตน​ พี่สาว จ.ส.อ.นพรัตน์ เปิดเผยว่า ตนเองไม่ทราบสาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้ และมองว่าทำไมในมีคนตั้งหลายคนอยู่ข้างใน แต่น้องชายตัวเองถูกยิงเสียชีวิตคนเดียว ยอมรับไม่เคยเห็นหน้าคนยิงมาก่อน เพราะทำงานคนละที่ ทั้งนี้อีก 2 ปี น้องชายก็จะเกษียณราชการแล้ว ก็ยังสับสนอยู่เพราะเมื่อคืนน้องมาหาที่บ้าน ก่อนมาทราบช่วงสายว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เจ้าตัวก็ไม่เคยเล่าปัญหาให้ฟัง ส่วนตนเองเคยทำงานที่กรมสรรพาวุธและเกษียณแล้ว
          กระทั่งเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า 9 โมงเช้า 191 รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงในหน่วยทหารมีคนเจ็บและเสียชีวิต จากนั้น 10 นาที ตำรวจเดินทางเข้ามาที่เกิดเหตุชุดแรก พบผู้ก่อเหตุเป็นทหาร จึงเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ก่อนเป็นผล มอบตัวในเวลา 10.00 น.ที่นอกกรมฯ สามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่าใช้ปืนขนาด 9 มม.ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2 ราย เป็นที่เกิดเหตุ 1 ราย และที่โรงพยาบาล 1 ราย อีกรายบาดเจ็บ สำหรับแรงจูงใจก่อเหตุ ยังคงสอบสวน

           ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าตัวจะยิงเพื่อนร่วมงานให้ครบ 10 คนนั้น เจ้าตัวยังให้การวกวน และสอบสวนเรื่องความผิดปกติทางจิต ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะความตั้งใจหรือความขัดแย้งและประวัติการรักษาทางการแพทย์ ยืนยันตำรวจดำเนินคดีตามปกติแม้เหตุจะเกิดในพื้นที่ทหาร จากนี้จะพิจารณาตามสถานการณ์ก่อนเปิดการจราจรบนถนนเทอดดำริตามปกติ

Advertisement