เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 64 เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง บริเวณสวนหลวงสแควร์ซึ่งอยู่ถัดจากด้านหลัง สน.ปทุมวันไปเพียง 50 เมตร ทางตำรวจปทุมวันจึงเรียงหน้าเดินออกมาเพื่อเตรียมตรวจสอบ แต่ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจผิดคิดว่าจะออกมาควบคุมตัว จึงใช้แผงเหล็กกดดันพร้อมทั้งเผชิญหน้าก่อนจะมีการขว้างปาข้าวของใส่ตำรวจจนกลุ่มแกนนำต้องประกาศระงับเหตุ นานกว่า 10 นาที จึงสงบ มาทราบภายหลังว่ามีการขว้างเเก๊สน้ำตา ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกรถพยาบาลและเรียกร้องขอน้ำเปล่าและน้ำเกลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นกลุ่มคนที่ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเดินเท้าไปยังลานสวนหลวงสแควร์ด้านหลัง สน.ปทุมวัน พบกับตำรวจควบคุมฝูงชน ประมาณ 50 นาย ยืนเตรียมความพร้อมดูแลอำนวยความสะดวก ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะพยายามตะโกนถามว่าเป็นผู้ขว้างปาแก๊สน้ำตาใส่หรือไม่
ด้าน พ.ต.ท สมยา เจริญราษฎร์ สวป.สน.ลำหิน เป็น 1ในชุดควบคุมฝูงชน ยืนยันว่า พวกตนไม่ได้เป็นผู้ใช้เเก๊สน้ำตาตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจ อีกทั้งตนเองยังเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการขว้างเเก๊สน้ำตาครั้งนี้ด้วย ยืนยันว่าที่นำกำลังตำรวจมารวมตัวด้านหลัง สน.ปทุมวัน ไม่ได้มีจุดประสงค์ต้องการสลายการชุมนุม เเต่ต้องการนำกำลังตำรวจไปสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของ สน.ปทุมวันเท่านั้น
ทั้งนี้พ่อค้าแม่ค้าหลายราย ในตลาดสวนหลวง จุฬาซอย 18 ได้รับผลกระทบจากละอองแก๊สน้ำตาของตำรวจควบคุมฝูงชน(คฝ.) ที่อยู่บริเวณสวนหลวงสแควร์ โดยแม่ค้าพวงมาลัยคนหนึ่งซึ่งขอปกปิดชื่อ-นามสกุล ระบุว่า ก่อนยิงแก๊สน้ำตาตำรวจไม่มีการแจ้งเตือนแต่อย่างใด แม่ตนที่อายุ 70 ปี ที่กำลังขายพวงมาลัยอยู่ เนื่องจากเป็นวันจ่าย ต้องโดนแก๊สน้ำตา ทั้งๆ ที่พวกตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งเวลาที่เกิดเหตุ ยังมีประชาชนกำลังรับประทานอาหารอยู่หลายร้าน ต้องรีบวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดด้วยความตื่นตระหนก และหลังเกิดเหตุก็ยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
Advertisement
