วันที่ 6 พฤศจิกายน 63 ตำรวจ สภ.นาโยง รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 2 บ้านห้วยลึก ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง ที่เกิดเหตุบริเวณพื้นปูนหน้าบ้านปูนชั้นเดียว บนเก้าอี้ไม้หินอ่อน ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 54 ปี เจ้าของบ้านดังกล่าว มีอาชีพกรีดยางพารา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1 นัด กระสุนลูกปรายเจาะเข้าที่หน้าอกซ้ายทะลุแผ่นหลัง 1 แห่ง ฝังใน 6 เม็ด และต้นแขนซ้ายอีก 1 แห่ง
จากการสอบสวนภรรยาผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกับสามีเตรียมตัวที่จะออกไปกรีดยางพาราภายในสวนยางที่อยู่ข้างบ้าน โดยสามีได้ออกไปใส่รองเท้าบูธอยู่บริเวณไม้หินอ่อนหน้าบ้าน ส่วนตนเองกำลังแต่งตัวอยู่ภายในบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และได้วิ่งออกมาดูทันที พบว่าสามีนอนฟุบจมกองเลือดอยู่บนเก้าอี้ไม้หินอ่อนแล้ว จึงได้เรียกรถ รพ.นาโยงมารับตัว เพื่อจะยื้อชีวิต แต่ไม่ทันการ สามีได้เสียชีวิตลงแล้ว
ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียงรถแล่นเข้าออกเลย อีกทั้งสุนัขที่เลี้ยงไว้ไม่ได้เห่าหอนทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ส่วนสามีเป็นคนดี ขยันทำงาน ไม่เคยมีความขัดแย้งหรือบาดหมางกับบุคคลภายนอกมาก่อน
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.อาคม บัวทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมกำลังชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง กำลังชุดสืบสวน สภ.นาโยง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบลูกปรายกระสุนของลูกซอง ตกอยู่จำนวน 2 หัว ที่พลาดจากตัวผู้เสียชีวิตเจาะเข้าที่ฝาพนังหน้าบ้าน 1 รู และที่ประตูบ้านอีก 1 รู เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่มักคุ้นกันดี เนื่องจากสุนัขของผู้ตายไม่ได้เห่าก่อนจะเกิดเหตุ โดยคนร้ายน่าจะดักซุ่มรออยู่ที่ต้นมังคุดบริเวณหน้าบ้าน ห่างจากตัวผู้ตายประมาณ 15 เมตร เมื่อเห็นผู้ตายออกมาจึงได้เดินเข้าไปถล่มยิงในระยะน่าจะไม่เกิน 6 เมตร ก่อนจะเดินเท้าหลบหนีไป
รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโยงได้เชิญตัวพี่ชายภรรยาผู้ตาย ซึ่งเป็นอดีตทหารพรานที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงกันไปสอบปากคำ หลังจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก เบื้องต้นได้ให้การปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว อ้างว่าขณะเกิดเหตุได้นอนหลับอยู่ในห้องนอนที่บ้าน
ขณะเดียวกันจากการสอบพยานรายอื่นก็ทราบว่า หลังจากที่แม่ของผู้ตายเสียชีวิตลงประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายพี่น้องได้มีการฟ้องร้องกันในเรื่องปัญหาที่ดินและเงินสดในบัญชีธนาคารของแม่ผู้ตายที่คงเหลืออยู่ เนื่องจากจัดสรรแบ่งกันไม่ลงตัว จนถึงขั้นฟ้องร้องในชั้นศาล กระทั่งมีคำตัดสินให้ทางฝ่ายผู้ตายชนะความ แต่ได้แบ่งที่ดินและเงินสดให้จำนวนเท่าๆ กันหมดแล้ว คาดอาจเป็นปมเหตุที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเกิดความไม่พอใจ
สำหรับอีกปมหนึ่ง ผู้ตายและภรรยาได้มีปัญหาเรื่องที่ดินมรดกกับบรรดาพี่น้องของภรรยาผู้ตาย ใน 5 คนพี่น้องมาก่อนหน้านี้หลาย 10 ปีแล้ว และมีปัญหามาโดยตลอด จนถึงขั้นมีการตัดพี่ตัดน้องกัน และไม่ได้ไปมาหาสู่กัน ทำให้สองคนผัวเมียก็อาศัยกันอยู่โดยลำพัง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำและหาหลังฐานเพิ่มเติมเพื่อเร่งสืบหาฆาตกรที่แท้จริงต่อไป
Advertisement
