พม. จับมือ ซีพี ออลล์ มอบของขวัญปีใหม่ 2565 สร้างโอกาสต่อยอดการศึกษาพร้อมอาชีพให้เด็ก เยาวชน

           เมื่อวันที่ 5 ม.ค.65 ที่ห้องประชาบดี ชั้น 19 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน ระหว่างกระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาและพัฒนาต่อยอดไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต อีกทั้งเป็นของขวัญปีใหม่ 2565ของกระทรวง พม. ภายใต้โครงการ “ปัญญาภิวัฒน์ สานฝัน สู่อาชีพ” ที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา ด้วยการให้ทุนการศึกษาและสวัสดิการ พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการเข้าทำงานในสถานประกอบการของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
นายจุติ กล่าวว่า รัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้คณะรัฐมนตรีช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและให้ประชาชนมีบ้าน มีอาชีพ ซึ่งสิ่งที่เราได้ทำคือการเริ่มต้นแก้ปัญหาหนี้ ด้วยการหารายได้ เสริมสร้างทักษะให้คนมีอาชีพสู่ความเป็นมืออาชีพ วันนี้ โครงการของ ซีพี ออลล์ ได้ให้ทุนการศึกษาเด็กที่ไม่มีโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสในการสร้างทักษะและศักยภาพของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งการมีอาชีพด้านค้าปลีกจะเป็นเสาเข็มที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยในเรื่อง SME สำหรับการพัฒนาความเป็นมืออาชีพสำหรับความเป็นเลิศในทุกสิ่งที่ทำ คือการพัฒนาทุนมนุษย์และทรัพยากรมนุษย์ไปสู่ความเป็นเลิศ โดยกระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อนงานเกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีก ซึ่งสอดคล้องกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ที่มีลูกบ้านมากถึง 6 ล้านคน รวมไปถึงเด็กและเยาวชนที่จบการศึกษา แต่ยังหาจุดแข็งตัวเองไม่เจอ วันนี้ เราได้เปิดโอกาสให้เข้าสู่ความเป็นมืออาชีพ จากลูกจ้างสู่ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยเข้มแข็ง เราจำเป็นต้องสร้างทักษะให้เด็ก เยาวน มีความพร้อมในการที่จะพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต และตนขอขอบคุณ ซีพี ออลล์ ที่มอบโครงการนี้ เป็นการมอบโอกาส ฉะนั้น เราจะนำสิ่งต่างๆ มาพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพราะการพัฒนาทุนมนุษย์เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว กระทรวง พม. โดย ดย. จะทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนในสถานรองรับได้เข้ารับการศึกษา โดยพิจารณาคัดเลือกกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีคุณสมบัติตามที่บริษัทกำหนดเพื่อเข้ารับทุนการศึกษา ด้านบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จะทำหน้าที่สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของ ดย. โดยจะสนับสนุนทุนการศึกษาเต็มจำนวนผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติของบริษัท เพื่อศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ และศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ 20 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้งฝึกปฏิบัติงานในพื้นที่ที่บริษัทจัดหาให้ และถ้าเยาวชนที่ได้รับการฝึกอาชีพมีคุณสมบัติและระดับการศึกษาตรงตามที่บริษัทกำหนด ทางบริษัทจะรับเข้าทำงานในสถานประกอบการของบริษัท ซึ่งจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
นายวิเชียร กล่าวว่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญมากคือระบบการศึกษา ฉะนั้น เราต้องหยิบยื่นโอกาส ทางการศึกษาให้กับคนที่ขาดโอกาส ซึ่งเราได้ทำการศึกษาและพบว่าเด็กบางส่วนที่หายไปจากประเทศชาติปีละหลายแสนคนนั้น เด็กเหล่านั้นเขาหาโอกาสไม่เจอ เนื่องจากว่าเขาไม่มีช่องทาง แต่วันนี้ ซีพี ออลล์ และวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ พร้อมที่จะมอบโอกาสเหล่านั้นให้กับเด็กในสังกัดกระทรวง พม. เรายินดีที่จะร่วมในการพัฒนา เพื่อที่จะทำให้เด็กเข้มแข็ง และเมื่อเด็กเข้มแข็ง ครอบครัวมีอาชีพ มีรายได้ ปัญหาต่างๆ ก็จะลดลง และจะเป็นบุคคลที่เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวต่อไป
Advertisement