ก.ยุติธรรม เผย สถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำแนวโน้มดีขึ้น

           เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ม.ค.65 ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 86/2565 โดยมีนางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
          นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ยังคงไม่พบเรือนจำแพร่ระบาดแห่งใหม่เป็นวันที่ 3 โดยมีเรือนจำสีขาวอยู่ที่ 134 แห่ง และเรือนจำสีแดง 8 แห่ง ซึ่งในจำนวนดังกล่าว เป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาดเพียง 2 แห่ง (เรือนจำระบาดใหม่ คือ เรือนจำกลางพิษณุโลก และเรือนจำที่พบการติดเชื้อซ้ำในแดนบางส่วน คือ เรือนจำจังหวัดอุทัยธานี) ขณะที่มีเรือนจำอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้วทั้งสิ้น 6 แห่ง ซึ่งจะทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 แห่งกลางเดือนมกราคมนี้
           ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบเพิ่ม 2 ราย เป็นการพบในห้องแยกกักโรค และในเรือนจำสีแดงอย่างละ 1 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 804 ราย (กลุ่มสีเขียว 83% สีเหลือง 16% และสีแดง 1%) มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 84,264 ราย หรือ 96.4% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 87,407 ราย โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตติดต่อกันเป็นเวลา 23 วัน มีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 185 ราย คิดเป็น 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
          นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมในวันนี้ ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งพบว่าสถานการณ์โดยรวมดียังคงดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในด้านการป้องกันเชื้อ การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ และการปล่อยตัวผู้พ้นโทษออกจากเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งได้ดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ยังคงกำชับให้เรือนจำและทัณฑสถานเฝ้าระวังการแพร่ระบาดและรักษามาตรการเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อภายนอกเรือนจำและทัณฑสถาน ทั้งการแยกกักโรคผู้ต้องขังเข้าใหม่ และการดำเนินฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังให้ครบโดส ตลอดจนประสานวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่จนสามารถป้องกันเชื้อหรือช่วยลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านการบริหารจัดการวัคซีนของกรมราชทัณฑ์ ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือครบโดสแล้ว จำนวน 271,026 ราย หรือคิดเป็น 95.72% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 281,799 ราย
          ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันอังคารที่ 4 มกราคม 2565 พบมีผู้ติดเชื้อและอยู่ระหว่างการรักษาตัวเป็นเยาวชน จำนวน 3 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 52 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 4 แห่ง พบมีการติดเชื้อ 2 แห่ง และหมดสถานะ 2 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นรวมจำนวน 3,259 ราย หรือคิดเป็น 83% จากทั้งหมด 3,920 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีน จำนวน 3,924 ราย หรือคิดเป็น 93% จากทั้งหมด 4,209 ราย
Advertisement