เมื่อวันที่ 20 ม.ค.64 พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รองผบก.ปทส. สั่งการให้ พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.2 บก.ปทส., พ.ต.ท.เอกศิษฏ์ โตอดิเทพย์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ปทส. พ.ต.ท.ปวารณ์ ดาลจาวัล รอง ผกก.6 บก.ปทส.ปรก.กก.2 บก.ปทส. สนธิกำลัง จนท.ฝ่ายปกครอง ฉก.ตาพระยา บูรณาการออกตรวจพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดน ตามนโยบายสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายของรัฐบาล
กระทั่งเมื่อมาถึงบริเวณเส้นทางถนนสาย 359 ผ่านพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ก็พบรถกระบะนิสสัน นาวาร่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง จึงได้ให้หยุดรถ แต่รถต้องสงสัยคันดังกล่าวได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวิทยุไล่สกัดจับรถคันดังกล่าว จนมาถึงบริเวณแยกทางเข้าบ้านทุ่งหินโคน ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว จึงสามารถควบคุมไว้ได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวมีนายองอาจ ทดทสี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 6 ต.บ้านหวาย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เป็นผู้ขับขี่ นอกจากนี้ภายในรถยังตรวจพบชาวกัมพูชา อีกจำนวน 7 คน เป็นชาย 4 หญิง 8 ซึ่งทั้งหมดไม่มีหลักฐานหนังสือเดินทางมาแสดง จึงได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่ง สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้กำลังอีกชุดยังพบชาวกัมพูชาอีก 9 ราย ถูกปล่อยทิ้งไว้ในบริเวณป่าเขต อ.เขาฉกรรจ์ จึงได้ทำการสอบถามทราบว่าแรงงานทั้งหมดถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าดังกล่าวหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ไล่สกัดจับ ส่วนคนขับได้หลบหนีไป เบื้องต้นได้ทำการผลักดันตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.อ.อนรรฆ กล่าวว่า ทางชุดสืบสวนได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่าจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกนอกประเทศ จึงได้นำกำลังออกลาดตระเวนในพื้นที่จนจับกุมทั้งขบวนการได้ โดยเบื้องต้นนายองอาจให้การรับว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนแรงงานทั้งหมดจากพัทยา มาส่งที่บริเวณป่าใกล้กับแนวชายแดน จ.สระแก้ว จากนั้นจะมีคนพาแรงงานทั้งหมดข้ามกลับประเทศกัมพูชาไป โดยได้ค่าจ้างหัวละ 600 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายองอาจ ว่าซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม นำส่งสภ.เมืองสระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement
