แรมโบ้อีสาน จับมือ สนธิญา ร้องกองปราบ เอาผิดหญิงหน่อย หมิ่นประมาท ยุยงปลุกปั่น กรณีเปิดแคมเปญ “รัฐบาลฆาตกร” ยกตัวอย่างเคสจตุพร พาดพิงอภิสิทธิ์ จบที่คุก ซัดย้อนมองอดีตกรณีหวัดนก ฆ่าตัดตอนคดียา ฟาด “ตั๋วเฮียทักษิณ” กลับได้แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

แรมโบ้อีสาน จับมือ สนธิญา ร้องกองปราบ เอาผิดหญิงหน่อย หมิ่นประมาท ยุยงปลุกปั่น กรณีเปิดแคมเปญ “รัฐบาลฆาตกร” ยกตัวอย่างเคสจตุพร พาดพิงอภิสิทธิ์ จบที่คุก ซัดย้อนมองอดีตกรณีหวัดนก ฆ่าตัดตอนคดียา ฟาด “ตั๋วเฮียทักษิณ” กลับได้แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม #เดอะบางกอกนิวส์ #thebangkoknews
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ก.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสานผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เสวก บุญจันทร์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. และ พ.ต.ท.ภิรมย์ เมืองไสย รอง ผกก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และ มาตรา 328 หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยนำหลักฐานเอกสารต่างๆมามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
นายเสกสกล กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ ได้จัดรณรงค์แคมเปญ “#ฟ้องรัฐบาลฆาตกร” พาดพิงกล่าวหารัฐบาลเกี่ยวกับการบริหารงานช่วงวิกฤตโควิด ซึ่งถือเป็นการกล่าวหาเท็จ และ เป็นการหมิ่นประมาท สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง รวมถึงยังสร้างความแตกแยกในสังคมจากการปลุกระดมผู้คนด้วยการทำแคมเปญดังกล่าว ในฐานะที่ตนเองเป็นหนึ่งในทีมงานรัฐบาล และถือเป็นผู้เสียหายจากการพาดพิงดังกล่าวนี้ เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์จึงต้องออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับ คุณหญิงสุดารัตน์ ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นและหมิ่นประมาท และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
“การกระทำดังกล่าวของพรรคไทยสร้างไทย ถือเป็นการเล่นเกมส์การเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนใส่ร้ายรัฐบาล ในช่วงภาวะวิกฤติโควิดเช่นนี้เป็นกันทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะแค่ประเทศไทย ที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามดำเนินการแก้ไข ไม่มีใครอยากให้เกิดความสูญเสีย โควิดก็เหมือนกับอุบัติภัยไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งกรณีดังกล่าวคล้ายกับกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และแกนนำไทยไม่ทน พาดพิงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นฆาตกรฆ่าประชาชน ซึ่งผลสุดท้ายลงเอยด้วยการที่นายจตุพรต้องติดคุก”


นายเสกสกล กล่าวอีกว่า หากคุณหญิงสุดารัตน์ จะกล่าวหารัฐบาลในกรณีโควิด ก็อยากให้ลองย้อนกลับไปดูกรณีไข้หวัดนก และ กรณีฆาตกรตัดตอนผู้ต้องหายาเสพติด2500ศพ ตอนปี 2546 -2549 ช่วงที่ “ตั่วเฮีย” นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และตัวคุณหญิงสุดารัตน์ เองยังเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อย่างนี้ไม่เรียกว่าฆาตกรหรือ ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่เห็นออกมาทำอะไรเช่นนี้ เหมือนกับเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่ได้ยึดหลักแก้ไขปัญหาให้ประชาชน
นายเสกสกล กล่าวอีกด้วยว่า ยืนยันว่าการมาแจ้งความในวันนี้ มาในนามส่วนตัว และไม่ใช่เกมส์การเมือง การแก้เกี้ยว หรือ ต้องการสร้างความขัดแย้งใดๆ ที่มาเพราะอยากปกป้องสิทธิ์ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจของพรรคการเมืองในการช่วยกันแก้ไขปัญหาของประเทศ และไม่อยากให้ประชาชนมองว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ยอมปล่อยให้ฝ่ายค้านใส่ความบิดเบือนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆหรือ ในฐานะที่ตนอยู่ในรัฐบาลจึงนิ่งดูดายไม่ได้ ต้องออกปกป้องรัฐบาล เพราะก็ถือเป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน และยืนยันว่าไม่กังวลหากถูกฟ้องกลับ เพราะสามารถพิสูจน์ความจริงกันได้ในกระบวนการยุตธรรมว่าใครจะถูกดำเนินคดี มีตัวอย่างให้เห็นกับ กรณีของ นายจตุพร
ทั้งนี้เมื่อถามว่าคิดเห็นอย่างไรกับกรณีที่ นายทักษิณ ออกมาพูดในคลับเฮาส์ว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น นายเสกสกล กล่าวว่า นายทักษิณ สามารถกลับไทยได้ทุกเวลาไม่มีใครห้าม แต่ต้องกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สู้คดีกันตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีประชาชนฝากตนมาถามว่า นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ความเสียหายที่รัฐต้องชดใช้ในสมัยที่ทั้งคู่เป็นนายกรัฐมนตรี ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ช่วยหาเงินมาคืนด้วยได้หรือไม่

Advertisement