เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8 ม.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ “จ่าคิงส์ สะพานใหม่” พา นางทิวา อายุ 40 ปี พร้อมประจักษ์พยานจำนวน 2-3 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ภาณุพงศ์ สมสัก รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในคดีที่นายสุรศักดิ์ หรือ น้องต่าย อายุ 19 ปี บุตรชาย ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิตก่อนแต่งงานเพียงแค่ 2 วัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา
นายธมนันท์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้แม้ปัจจุบันจะมีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้วจำนวน 3 คน แต่ยังเชื่อว่าน่าจะเป็นแพะ ส่วนคนที่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงนายสุรศักดิ์ตัวจริงยังคงลอยนวลใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านตามปกติ เช่นเดียวกับคนที่เอาปืนจี้หัวข่มขู่เพื่อนๆ ของผู้ตายไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือก็ยังไม่ถูกดำเนินคดี เพียงเพราะรู้จักกับตำรวจ
นางทิวากล่าวว่า ยืนยันว่าลูกชายของตนเป็นเด็กดี ไม่ก้าวร้าว และไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร ช่วยเหลือครอบครัว ส่วนตัวยังคาใจเกี่ยวกับตัวคนร้ายที่จับมาได้ และยังเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่านี้ แต่ไม่เข้าใจทำไมตำรวจถึงต้องรีบปิดคดี
ขณะที่นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี เพื่อนผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า นายสุรศักดิ์ โดนกลุ่มคู่กรณี 3 คนรุมทำร้ายจนตกลงไปข้างทาง ตนเห็นคนใส่เสื้อสีแดงลายสก๊อตกระโดดลงไปแทงน้องต่าย 2 ครั้ง แต่ตำรวจท้องที่กลับจับคนใส่เสื้อแดงปกติ น่าเชื่อว่าเป็นแพะ เพราะผู้ต้องหามีอายุแค่ 17 ปี เท่านั้น แต่คนแทงตัวจริงที่ตนเห็นหน้ามีอายุ 20 กว่าปี แล้วตนเห็นว่าเป็นเหล็กกุดชาร์ป แต่ตำรวจบอกเป็นมีดปอกผลไม้
ตอนนี้เขาเป็นทหารเกณฑ์อยู่ในค่ายทหาร คนที่ร่วมก่อเหตุมีจำนวนมากกว่า 10 คน แต่ตำรวจท้องที่จับมาดำเนินคดีเวลานี้แค่เพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งคนรับสารภาพว่าเป็นคนแทงอายุ 17 ปีก็ผิดตัว ที่พวกตนสงสัยเพราะไม่มีการจัดให้พยานชี้ตัวคนทำร้ายเลย ทำให้ดูเหมือนต้องการเร่งรัดปิดคดีไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำแม่และเพื่อนที่เป็นพยานก่อนรวบรวมเสนอผู้บังคับบัญชาดำเนินการต่อไป