แจ้งความถูกมิจฉาชีพส่ง SMS แนบลิงค์ขโมยข้อมูลส่วนตัวแฮกบัญชีธนาคาร เสียหาย 29 ราย สูญเงิน 2 ล้าน

           วันที่ 14 ธันวาคม 63 ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) นายธนวัฒน์ แสงเพ็ชร อายุ 23 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร อาชีพพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ที่สูญเสียเงินไป 20,000 บาท จากการถูกมิจฉาชีพส่ง SMS หลอกขโมยข้อมูลส่วนตัวเข้าพบ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ในฐานะหัวหน้าชุดที่ 1 ศปอส.ตร. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้าย และตลอดทั้งวันได้มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกันทยอยเดินทางเข้าแจ้งความรวม 29 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000,000 บาท
           โดยนายธนวัฒน์ เปิดเผยว่า วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เวลา 16.30 น.ตนเองได้โทรศัพท์ไปยังคอลเซ็นเตอร์ ของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เพื่อขอเปลี่ยนที่อยู่ใบแจ้งหนี้ ซึ่งก็ได้รับแจ้งจากพนักงานคอลเซ็นเตอร์ว่าได้เปลี่ยนที่อยู่ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเวลา 17.00 น ได้มี SMS ส่งเข้ามาทางมือถือของตนเองให้อัพเดตข้อมูล มีลิงค์ให้กดเข้าไปซึ่งตนเองเชื่อว่าเป็น SMS ของธนาคาร จึงได้กรอก ชื่อ นามสกุลไป พร้อมทั้งเลขที่บัตรประชาชน ก่อนจะกดยืนยัน
           กระทั่งวันที่ 7 ธันวาคม เวลา 12.30 น.ได้รับการแจ้งเตือนทางไลน์ ว่ามีการเคลื่อนไหวของบัญชี มีเงินออกจำนวน 20,000 บาท ทั้งที่ตนไม่ได้ทำธุรกรรมกับทางธนาคารแต่อย่างใด จึงได้โทรศัพท์สอบถามกับคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งได้รับการแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม และนำหลักฐานการแจ้งความไปติดต่อธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา เพชรเกษม 69
           โดยทางธนาคารแจ้งว่าจะเร่งตรวจสอบให้ ขณะเดียวกันตนเองเกรงว่าการดำเนินการของธนาคารจะล่าช้า ไม่สามารถอายัดเงินได้ทัน จึงได้เข้ามาแจ้งความที่ ศปอส.ตร.เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนติดตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
            ด้าน พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินที่จะเอาผิดกับมิจฉาชีพมาดำเนินคดี โดยจะเร่งประสานกับธนาคาร ขอข้อมูลด้านธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด เพื่อดำเนินการตรวจสอบ สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ โดยใช้วิธีการส่ง SMS สุ่มไปตามเบอร์โทรศัพท์ต่างๆ พร้อมแนบลิงค์ให้กรอกข้อมูล ส่วนตัว และเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ซึ่งจะนำข้อมูลไปแฮกบัญชีธนาคาร
           ที่ผ่านมาก็มีการสืบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการไปแล้ว 2-3 คน พบว่าเกี่ยวพันกับแก๊งมิจฉาชีพในต่างประเทศ มีการแบ่งแยกหน้าที่กันทำ ซึ่งฝ่ายสืบสวนกำลังเชื่อมโยงความเกี่ยวข้อง และคาดว่าผู้เสียหายกลุ่มนี้จะเกี่ยวพันกับผู้ต้องหากลุ่มหนึ่ง ที่กำลังเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวอยู่
Advertisement