เมื่อวันที่ 23 พ.ย.64 พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.อ.วริษฐ์ ปทุมารักษ์ ผกก.3 บก.ปคบ. พ.ต.ท.ปองภพ เศรษฐาจินดา และ พ.ต.ท.เทพรัตน์ ศุกระกาญจน์ รอง ผกก.3 บก.ปคบ. พ.ต.ท.มงคล นนท์ธีระโรจน์ พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมสัญญา พ.ต.ต.วัลลภ นุชกำบัง สว.กก.3 บก.ปคบ. นำกำลังตรวจค้น 3 จุดในจ.สุพรรณบุรีและกรุงเทพมหานคร
โดยจุดแรกนำหมายค้นของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ ค 604/2564 ลง 19 พฤศจิกายน 2564 เข้าทำการตรวจค้น อาคารชั้นเดียว ย่านตำบลดอนโพธิ์ทอง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเป้าหมายจากการลงพื้นที่หาข่าวของชุดสืบสวน ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่รับซ่อมรถจักรยานยนต์ และจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ ,จุดที่ 2 นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค 193/2564 ลง 18 พฤศจิกายน 2564 เข้าทำการตรวจค้น ห้องแถวย่านคลองเตย เขตคลองเตย กทม. และจุดที่ 3 ตรวจค้น อาคารย่านลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กทม.ซึ่งเป็นเป้าหมายจากการลงพื้นที่หาข่าวของชุดสืบสวน ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่รับซ่อมรถจักรยานยนต์ และจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าวปรากฏบนสื่อออนไลน์ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่งใช้ชื่อ “ทริปน้ำไม่อาบ”รวมตัวกันจำนวนหลายพันคันจัดทริปเดินทางไปเที่ยวยังจังหวัดเพชรบูณ์ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวอาจทำให้มีกลุ่มวัยรุ่นอื่นๆ ลอกเลียนแบบในลักษณะขับขี่เกาะกันเป็นกลุ่มๆ ไปบนท้องถนน ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้ นอกจากนั้นจักรยานยนต์ที่ใช้ขับขี่ยังมีการดัดแปลงสภาพรถ เช่น ดัดแปลงสภาพท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ให้มีเสียงดัง ทางบก.ปคบ.จึงนำลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนทราบว่าที่โรงกลึงชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี และอีกหลายจุดได้เปิดให้บริการตกแต่ง ดัดแปลง และจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ ในลักษณะเพื่อเพิ่มความแรงและเพื่อใช้ในการแข่งขันจนมีชื่อเสียง อีกทั้งยังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวอาจมีการลักลอบจำหน่ายท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ ที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ให้แก่กลุ่มวัยรุ่น
จากการตรวจค้นสามารถยึดท่อไอเสียกว่า 100 อัน แบะอุปกรณ์การผลิตจำนวนมาก เบื้องต้นแจ้งข้อหาโฆษณาเพื่อจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำหรือนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร” เข้าข่ายฝ่าฝืน มาตรา 36 ระวางโทษ ตามมาตรา 55 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
