วันที่ 30 พฤศจิกายน 63 ที่สน.ลุมพินี แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว 3คนเดินทางมาพร้อมกับน.ส.คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบตำรวจตามหมายเรียกฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เหตุจากการขึ้นปราศรัยในชุมนุมวันที่ 15 ตุลาคม บริเวณแยกราชประสงค์ ที่ผ่านมา
โดยหนึ่งในแกนนำกล่าวว่าการคิดเห็นต่างแล้วแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนพึ่งกระทำได้ ไม่น่าจะเป็นความผิด และต้องออกหมายเรียกแบบนี้ การที่รัฐดำเนินคดีกับเด็กและเยาวชน เป็นการทำที่ไม่ถูกต้อง
การใช้สิทธิในการชุมนุม เป็นสิทธิเสรีตามรัฐธรรมนูญ และสากล ซึ่งในการชุมนุมมีเพียงร้องเพลงอย่างสงบและปราศจากอาวุธ อยากให้ผู้ใหญ่หันมาฟังเสียงประชาชน การออกหมายเรียกไม่ทำให้เราหยุดเรียกร้องตามอุดมการณ์
ยืนยันจากนี้จะเคลื่อนไหวต่อไป วันนี้ตนก็มาทำตามกฎหมายรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมจะให้ปฏิเสธและจะต่อสู้ทางกฏหมายต่อไป
สำหรับการเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการปฏิรูปก็ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ที่มีการเชิญชวนให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียน มองว่าเป็นข้อดี เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดนักเรียน
ทั้งนี้หากยกเลิกการใส่ชุดนักเรียน ตนไม่คิดว่าจะเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในโรงเรียน แต่มองว่าควรแก้ที่ทัศนคติของแต่ละคนมากกว่า เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ การแบ่งชนชั้น
ด้าน น.ส.คุ้มเกล้า กล่าวว่า น้องทั้ง 3 คน ได้ทำตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 มาตรา 44 วรรคแรก บัญญัติว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ” จึงเดินทางมารับทราบหมายเรียกตามข้อกล่าวหา เบื้องต้นจะให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากยังไม่ทราบพฤติการณ์การก่อเหตุตามหมายเรียก และยังไม่ทราบวันเวลาในการกระทำผิด และจะให้การเพิ่มเติมอีกในประเด็นต่างๆ ที่ถูกกล่าวหา พร้อมตั้งข้อสังเกตุการออกหมายเรียกและส่งตัวไปศาลเยาวชน เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ชี้กระบวนการควรจบในชั้นสอบสวน ไม่จำเป็นต้องไปสู่ศาลเยาวชน
Advertisement