เหยื่อถูกตำรวจรีดเงินแสนทับคดีร้องสายไหมต้องรอด

          ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่สำนักงานสายไหมต้องรอด นางสาวกันติชา มณีฉาย ผู้เสียหาย พร้อมสามีและเพื่อนสามี เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อนายเอกภพเหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกพนักงานสอบสวน สน. พระโขนง เรียกรับสินบนเพื่อปิดคดี
         โดยนางสาวกันติชา เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อช่วง วันที่ 15 เมษายน 2558 เกิดเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นยกพวกทำร้ายร่างกายกัน แถวแถวโลตัสในซอยสุขุมวิท 93 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งในเวลาต่อมามีผู้ที่เค้าไปแจ้งความกล่าวหาว่าสามีและเพื่อนของสามีตนเองเป็นผู้กระทำในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการดำเนินการเรียกไปสอบถามก่อนจะมีการแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเพราะพยานที่เห็นเหตุการณ์มีการชี้ตัวสามีและเพื่อนโดยกล่าวหาว่าใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายจนช่วงปลายปี 2559 ตำรวจได้นำหมายจับลงวันที่ 22 เมษายน 2558 เข้ามาดำเนินการจับกุมสามีตนเองที่บ้านน้องสาว และตำรวจได้มีการตรวจร่างกายสามีไป ก่อนที่พ่อของสามีจะใช้สมุดบัญชีธนาคารภายในมีเงินจำนวน 300,000 ไว้ใช้เป็นหลักในการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี เพราะสามียืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก่อนจะมาทราบภายหลังว่า เพื่อนของสามีที่ อยู่ในเหตุการณ์ด้วยขนาดไปซื้อของที่โลตัสกับสามีได้ถูกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีติดต่อนัดหมายกันเข้าไปพบหลังเกิดเหตุได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์โดยตำรวจติดต่อได้จากการตรวจสอบพบกระเป๋าเงินที่ตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเพราะในวันดังกล่าวเพื่อนของสามีถูกรุมทำร้ายขณะที่กำลังออกจากโลตัสทำให้ต้องวิ่งหลบหนีขึ้นมอเตอร์ไซค์และเสียหลักล้มทำให้กระเป๋าเงินตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ
         โดยตำรวจได้อ้างว่าได้มีการทำสำนวนส่งฟ้องในคดีนี้ซึ่งจะต้องถูกคุมขังหากไม่อยากถูกคุมขังต้องยื่นประกันตัวในวงเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งเพื่อนของสามีก็ดำเนินการจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาทเพราะเข้าใจว่าเป็นเงินประกันตัวที่ใช้ในการสู้คดี แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้วในห้องน้ำที่สน. ก็ถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการเขียนเอกสารหรือเซ็นรับทราบใดๆ
          โดยหลังจากที่มีการประกันตัวของสามีตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 มาจนถึงเมื่อช่วงวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนคนเดิมได้มีการติดต่อกลับมาอีกหนึ่งครั้งโดยมีการเรียกขอเงินจำนวน 100,000 บาทโดยอ้างว่าจะเป็นการช่วยนั่งขับคดีให้ขาดอายุความเพื่อจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดีในฐานความผิดร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นซึ่งตนเองได้พยายามชี้แจงกับทางตำรวจว่าไม่มีเงินซึ่งพร้อมที่จะปล่อยให้ขั้นตอนทางคดีเป็นไปตามขั้นตอนยุติธรรมเพราะยืนยันมั่นใจในความบริสุทธิ์ของสามี รวมถึงยังได้พยายามอธิบายกับทางตำรวจว่าทางครอบครัวไม่มีเงิน แต่ทางตำรวจได้พยายามพูดจาให้ตนเองไปหากู้ เงินมาให้ โดยตนเองได้บันทึกคลิปขณะที่มีการโทรมาของพนักงานสอบสวนคนนี้เอาไว้เป็นหลักฐาน และตนเองยังทราบว่าในส่วนของพยานที่มีการชี้ตัวสามีตนเองว่าเป็นผู้ก่อเหตุได้ระบุว่าไม่ได้เป็นคนที่เห็นสามีตนเองอยู่ในเหตุการณ์ แต่เป็นเพราะกลุ่มของพยานซึ่งเป็นคนในซอยเดียวกันกับสามีไม่ถูกกันอยู่แล้วเป็นทุนเดิมจึงทำให้ถูกบังคับ จากคนในซอยให้ชี้ตัวมาที่สามีของตนเอง
           ในวันนี้จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อสายไหมต้องรอดเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยเพราะตำรวจมีการติดต่อมาที่ตนเองเพื่อเรียกเงินทั้งทั้งที่ตนเองเป็นภรรยาของสามีและก็พร้อมให้สามีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจึงเกรงว่าอาจจะถูกตรวจสอบไปถึงคนในครอบครัวอื่นๆและอาจถูกคุกคามหากไม่ยอมจ่ายเงินให้ตามที่มีการร้องขอ
          ขณะที่นายเอ สามีของนางสาวกันติชา ระบุว่าตนเองยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุทะเลาะวิวาทที่มีการกล่าวอ้าง โดยในช่วงเกิดเหตุตนเองและเพื่อนเดินทางไปที่โลตัสเพื่อซื้อของมาเตรียมกินเลี้ยงกันที่บ้านแต่ขณะที่อยู่ระหว่างเตรียมตัวจะออกจากโลตัสเพื่อกลับบ้านได้เกิดเหตุวิวาทกันและมีบางส่วนวิ่งเข้ามาภายในโลตัสตนเองกับเพื่อนจึงแยกย้ายกันหลบหนีเพราะเกรงว่าจะได้โดนลูกหลง ซึ่งตนเองสังเกตว่าหนึ่งในกลุ่มที่ก่อเหตุกันอยู่เป็นกลุ่มที่ตนเองเคยมีปัญหากันมาก่อนแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ซึ่งตนเองได้สามารถขี่จักรยานยนต์หลบออกมาได้ แต่เพื่อนกลับถูกต้อนกลับไปในโลตัสและถูกทำร้ายก่อนจะมีคนเข้ามาห้ามว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และมาถูกตำรวจดำเนินการออกหมายจับดังกล่าว
            นายเอกภพระบุว่าในเบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายซึ่งการเดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับทางสายไหมต้องรอดในวันนี้ตนเองได้บอกกับทางผู้เสียหายว่าต้องยอมรับว่าจะเป็นทั้งผลดีและผลเสียทั้งสองด้านเพราะผลดีเรื่องนี้จะได้รับการช่วยเหลือจากทางผู้ใหญ่ของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับการตรวจสอบและดำเนินการลงโทษตำรวจที่ทำผิดกฏหมายแต่ในส่วนของผลเสียในเรื่องของคดีความที่มีอยู่ต้องยอมรับว่าจะมีการถูกตรวจสอบมากขึ้นและเรื่องอาจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตรงนี้ต้องเป็นฝั่งของทางผู้เสียหายที่ดำเนินการเคลียร์เรื่องของข้อกล่าวหาดังกล่าวด้วยตนเองและพยานหลักฐานที่มี โดยตนเองจะดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปปรึกษากับท่านว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อปรึกษาในการช่วยเหลือในกรณีดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งทีมข่าวยังได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้เสียหายได้มีการบันทึกคลิปขณะมีการโทรศัพท์พูดคุยกับปลายสายที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานสอบสวนพบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ตรงกับนายตำรวจยศร้อยตำรวจเอกนายหนึ่งสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลรับผิดชอบ ซึ่งตำแหน่งที่ รับผิดชอบอยู่ในขณะนี้คือรองสารวัตรฝ่ายสอบสวนของ สน. พระโขนง
Advertisement