“เสือ เสฏกานต์” ลูกชาย “เสกโลโซ” เปิดใจดราม่าครอบครัว หลังแฟนสาวถูก กล่าวหาทำทรัพย์สินหาย

          จากกรณีดราม่าระหว่าง กานต์ วิภากร ศุขพิมาย ที่ออกมาโพสต์เดือดต่อว่า ดรีม แฟนสาวของ เสือ เสฏกานต์ ลูกชายตัวเอง โดยกล่าวหาว่าของในบ้านหาย ทั้งสมุดธนาคาร บัตรเครดิต และทวงรถคืนจากลูกชาย จนเสือ ต้องร้องขอความคุ้มครองจากศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 4 ม.ค.ที่อาคารมาลีนนท์ เสือ เสฏกานต์ ศุขพิมาย พร้อมดรีม แฟนสาว และนายปัญชพัฒน์ เลิศธีรเรืองกุล ทนายความ เดินทางมาเปิดใจถึงดราม่าเรื่องนี้กับรายการโหนกระแส โดยเสือ เสฏกานต์ ระบุว่า วันนี้มาออกรายการเพื่อชี้แจงว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับแม่ ยืนยันว่าไม่เคยแตะเงิน 10 ล้านบาท ในบัญชีฝากประจำ ยอมเซ็นต์อะไรไปหมดแล้ว แต่ตนและดรีมไม่มีสมุดบัญชี แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ตนก็คิดไม่ออกเพราะเป็นเหตุการณ์รุนแรง อีกส่วนก็เป็นเรื่องบิทคอยน์ ก็พร้อมโอนให้แม่ตลอด เพราะเงินก้อนที่เขาให้จัดการไม่ใช่เงินตน เพราะก็มีส่วนตัวเองอยู่แล้ว แต่ที่ได้มาจากการขุดบิทคอยน์ก็เป็นของแม่หมด ไปดูในประวัติบนเว็บไซต์ได้ ซึ่งปัญหาหลักๆ ในตอนนี้ก็คือเรื่องเงิน ยืนยันว่า ตนไม่ได้คิดร้ายกับครอบครัว แค่อยากให้ครอบครัวอยู่ด้วยกัน เข้าใจกันได้จริงๆ เพราะหากอยู่ต่อไปโดยไม่ทำอะไร ให้มีปัญหาอยู่แค่ดรีมกับแม่ก็คงอยู่ยาก ตนไม่ได้มาเข้าข้างดรีม แล้วเลือกแทนแม่ แค่เห็นว่าข่าวที่ออกมาตามโซเชียลนั้นไม่ถูกต้อง
เสือ เสฏกานต์ กล่าวอีกว่า อยากให้ทุกอย่างจบด้วยการที่เราอยู่เป็นครอบครัว อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม แต่ต้องรอ เพราะตอนนี้ปัญหาหนักมาก ประเด็นที่แม่มองว่าเลือกข้างไปแล้ว ก็รู้สึกไม่ดี ตนเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ แต่ยืนยันว่าที่ทำแบบนี้ไม่ได้เห็นแฟนดีกว่าแม่ ดีกว่าครอบครัว เรื่องที่บอกว่าฟ้องแม่นั้น วันที่ไปศาลก็มองว่าเรื่องมันแรงต่อชีวิตจริงๆ จึงไปฟ้อง ที่เคลียร์ไม่จบที่บ้ายมันพูดยาก เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เรื่องแบบนี้มีกันทุกครอบครัวเป็นปกติ แต่ครอบครัวตนอยู่ในสายตาทุกคนก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ ตนก็หยุดอะไรไม่ได้ ข้อเรียกร้องข้อ 5 ที่ว่าให้พาแม่ไปพบจิตแพทย์นั้น ก็พูดยาก แต่การที่เขาคิดไม่ตรงกับคนอื่นไม่ใช่อะไรที่โหดร้ายอะไรมาก แต่สิ่งที่เขาขู่เขาทำมันอาจจะแรงไป มีผลเสียกับคนอื่นได้เยอะ ควรเป็นเรื่องปกติในไทย เพราะเมืองนอกใครๆ ก็คุยกับจิตแพทย์ได้ตามปกติ ควรได้รับการยอมรับมากขึ้นในไทย แต่เขาไม่อยากไปเพราะกลัวคนจะมองว่าเขาป่วย แต่ตนไม่ได้มองแบบนั้น หากพบแล้วทำให้จิตดีจขึ้น ตนก็ไม่เคยถามว่าอะไรทำให้เขาเป็นแบบนี้ แต่ก็สังเกตว่าเขาเปลี่ยนไปมาสักพักแล้ว ก็เป็นห่วงมานาน
“รู้ว่าเขารักเราและครอบครัวมากจริงๆ แต่การที่เขาทำอะไรที่รุนแรงไปก็ไม่เห็นด้วย จริงๆ การที่เราไม่เห็นอะไรตรงกันตลอดในครอบครัวก็เป็นเรื่องปกติมากๆ ที่ผมมองว่าดรีมไม่ผิดอะไรก็เป็นเรื่องปกติ แต่มันไม่น่าเป็นเรื่องมาด่าในโซเชียล แต่อยากมีคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ย เพราะเคยเข้าไปคุยเองหลายชั่วโมงมันก็ยาก พ่อผมก็หนักใจ แต่ไม่อยากให้เขาคิดมาก เพราะเขาก็มีเรื่องต้องเผชิญเยอะเหมือนกัน คนอาจจะคิดว่าผมอกตัญญู แต่บอกเลยว่าไม่เคยคิดร้าย หรือเอาเงินจากครอบครัว ผมเห็นบุญคุณเขามาตลอด แต่ที่อยากจะพูดเพราะผมไม่เห็นด้วยมากๆ ไม่เคยคิดจะทำร้ายครอบครัวเลย” เสือ กล่าวและว่าตั้งแต่ออกจากบ้านมาก็คุยกับพ่อและคนอื่นบ้าง ส่วนเรื่องงานที่รับไว้ ก็คงไปไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะไปได้หรือไม่ ครอบครัวตนมีปัญหาซับซ้อนมาตั้งนานอยู่แล้วจนทำให้ทุกคนช้ำ แต่ตนไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร เพราะประวัติครอบครัวเราที่คนเห็นก็มีเยอะ แต่สิ่งที่เจ็บและจำมาตลอดก็อาจเชื่อมโยงกันได้ว่ามันทำให้เราแตกแยกหน่อย ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตนระแวงมาก ต้องย้ายที่อยู่บ่อย อยู่ที่เดียวก็ไม่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวดรีมด้วย เพราะมีคนมาติดตามถ่ายรูปบ้าง มาส่งของให้บ้าง ตนห่วงคนใกล้ตัวตัวเองมากกว่า ทั้งนี้ หากต้องเจอกับแม่ก็คุยได้ แต่ถ้าตอนนี้คงไม่พร้อม ยอมรับว่า ก็เป็นห่วงทั้งแม่และครอบครัว หลายคนบอกว่าตนเป็นกาวที่เชื่อมโยงครอบครัว แต่อะไรที่ตนมองว่าผิดก็ต้องออกมาพูด ตนอยากจะปกป้องคนที่รักจริงๆ
ด้าน ดรีม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็ได้ไปแจ้งความเรื่องหมิ่นประมาทและสอบปากคำมาแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้คนกลางที่มีเหตุผลมากพอมาคุยกัน แต่ตอนนี้มองว่าถ้าคุยไปก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าก็รู้สึกแย่เพราะสิ่งที่แม่กานต์พูดนั้นเป็นเรื่องไม่จริง ตนจะไปชี้นำเสือหรือใครก็เป็นไปไม่ได้ ยิ่งเสืออยู่กับพ่อแม่มา ตนเป็นคนนอกจะไปพูดว่าพ่อแม่เขาไม่ดีได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ทำ และเสือก็ไม่ได้เลือกข้าง และเขาก็ไม่ได้เลือกเรา อีกทั้งตนยังให้ความสำคัญกับครอบครัวเขาอยู่ ทั้งนี้ ประเด็นที่แม่กานต์ไลฟ์บอกว่าหากใครเจอตนจะให้เงิน 5 แสนบาท ก็ทำให้ตนใช้ชีวิตลำบากด้วย ไม่รู้ว่าใครจะคิดอะไรกับเราบ้าง
ขณะที่นายปัญชพัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นศาลได้รับเรื่องที่ร้องขอไว้แล้ว ยังคงมี 5 ข้อเหมือนเดิม และกำลังดำเนินการด้านเอกสารที่ต้องส่งเพิ่มเติม หรืออาจจะเรียกไต่สวนฉุกเฉินเป็นกรณีพิเศษ ส่วนกรณีที่ดรีมแจ้งความนั้นมีผู้ก่อเหตุ 2 คน รู้แล้วว่าเป็นใคร กำลังสืบสวนหาความเชื่อมโยงกัน ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สน.ตลิ่งชัน ในความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมถึงการคุกคาม ส่วนประเด็นที่ว่า หากจะนัดเจอกับกานต์ ก็ต้องดูความพร้อมของน้องๆ ทั้ง 2 คนและองค์ประกอบอื่น รวมถึงต้องรอให้มีคนกลางที่สามารถคุยกันได้ทั้ง 2 ฝั่ง
Advertisement