เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 63 ตำรวจ สน.พหลโยธินไปตรวจสอบบริเวณเกาะกลางแยกรัชโยธิน ตัดถนนพหลโยธิน ห่างจาก สน.นิดเดียว หลังมีสมาชิกเฟสบุ๊กได้แชร์ภาพของชายคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่บนเกาะกลางถนนแยกดังกล่าวพร้อมกับรูปภาพของนางดวงใจ ใบยพฤกษ์ ผู้เสียชีวิตและป้ายข้อความระบุว่า “ชะตากรรม หรือ สังคมกลั่นแกล้ง 15 ตุลาคม เมียโดนรถเฉี่ยวแล้วเหยียบตายตรงนี้ ผ่านไป 2 เดือน ยังไม่เห็นความรับผิดชอบของรถ ขสมก.สาย 39 ลูกกับผัวตกงานลำบาก อยากรู้แม้แต่ค่าทำศพก็ไม่เห็น”
โดยชายคนดังกล่าว คือ นายโชคชัย ใบยพฤกษ์ อายุ 36 ปี คน จ.ร้อยเอ็ด เล่าว่าก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้าบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เพิ่งตกงานได้ไม่นานเมื่อโควิด-19 ระบาด ในวันเกิดเหตุลูกชายวัย 17 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์พาภรรยาไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งขณะขับออกมาตามทางคู่ขนานถนนรัชดาภิเษก เมื่อมาถึงแยกรัชโยธินเกิดอุบัติเหตุถูกรถเมล์โดยสารประจำทางสาย 39 ชนท้ายรถจยย.ล้มคว่ำก่อนที่รถเมล์จะเหยียบร่างของภรรยาซ้ำทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที หลังเกิดเรื่องได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ซึ่งก็เรียกคู่กรณีมาสอบสวน

โดยคู่กรณีได้แจ้งให้ตนดำเนินการเรื่องประกอบพิธีทางศาสนาไปก่อน จึงนำศพภรรยากลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งก็มีคนขับรถเมล์คันที่เกิดเหตุไปร่วมพิธีและขอขมาศพ แต่หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป ตนได้สอบถามความรับผิดชอบกับหน่วยงานต้นสังกัดที่เป็นคู่กรณี แต่ก็ได้รับคำพูดบ่ายเบี่ยงให้ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ตำรวจเจ้าของคดีก็ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตนมีฐานะยากจนก็ไม่รู้จะพึ่งพาใคร จึงตัดสินใจมาประท้วงขอความเป็นธรรมบริเวณแยกรัชโยธิน ตั้งแต่ 18.00 น. วันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา
ด้านพยานผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ให้การว่า วันที่เกิดอุบัติเหตุตนไม่เห็นชัดเจนว่าใครเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิด แต่ตนได้เข้าให้การช่วยเหลือด้วยการโบกรถที่วิ่งผ่านไปมา โดยมีกระเป๋ารถเมล์มาถามว่า เห็นขณะที่รถจักรยานยนต์ปาดหน้าหรือไม่ ซึ่งตนไม่เห็นจึงปฏิเสธไป จนกระทั่งช่วงค่ำที่ผ่านมาขณะกำลังขับขี่รถ จยย.กลับบ้าน ตนบังเอิญเห็นชายคนดังกล่าวนอนร้องขอความเป็นธรรม จึงจอดรถเพื่อสอบถามจนทราบว่าเป็นเหตุการณ์ที่ตนอยู่ด้วยในวันนั้น ซึ่งตนก็พยายามหาทางช่วยเหลือเท่าที่ทำได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายโชคชัย ไปพักผ่อนนอนที่ห้องสายตรวจ สน.พหลโยธิน เพื่อรอพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อสอบถามความคืบหน้า และเตรียมประสานเรื่องร้องทุกข์ให้ผู้บังคับบัญชารับทราบอีกครั้งต่อไป
Advertisement