เปิดใจเพื่อนติดโควิดอาการหนัก สายด่วนยันต้องให้คนป่วยมาคุย สุดท้ายสู้ไม่ไหวจากโลกไปก่อน

          วันที่ 27 เมษายน 64 เพื่อนของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในห้องพักคอนโดมิเนียมย่านจรัญสนิทวงศ์โดยได้เคยโทร.ไปขอความข่วยเหลือจากภาครัฐมาแล้ว ได้เปิดเผยกับสื่อว่าช่วงสงกรานต์ ผู้ตายเดินทางมาเยี่ยมตนที่ จ.หนองคาย จนถึงวันที่ 15 เมษายน จึงได้นั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ จากนั้นตนก็ป่วยเป็นไข้ ไปตรวจพบว่าติดโควิด-19 จึงได้แจ้งทุกคนที่อยู่ใกล้ได้ทราบเพื่อจะได้ไปตรวจเพราะมีความเสี่ยงสูง

         ทางผู้ตายได้ไปโรงพยาบาลเพื่อขอเข้ารับการตรวจ แต่โรงพยาบาลมีความจำกัดรับตรวจไก้แค่ 20 คน จึงไม่ได้ตรวจ โดยช่วงนั้นยังไม่มีอาการมากนัก จนต่อมาเริ่มมีอาการเหนื่อย ไอ ต้องไปซื้อยามากินประคองอาการไว้และกักตัวในห้อง และประสานสาธารณสุขในพื้นที่เข้ารับการตรวจโควิดในวันที่ 27 เมษายน โดยเริ่มมีอาการเหนื่อยง่ายแล้ว ตนได้ประสานทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือผู้ตาย ได้ประสานไปยังนิติบุคคลของคอนโดมิเนียมที่ผู้ตายพักให้โทร.ไปเบอร์สายด่วน 1669 ให้หน่อย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถประเมินอาการของผู้ป่วยได้ว่าอยู่ในระดับวิกฤตที่สามารถเอารถออกไปรับได้หรือไม่จะต้องให้เจ้าตัวโทรมาเอง หรือ ให้ญาติสายตรงโทรมาแจ้ง เจ้าหน้าที่ถึงจะเชื่อ

         ในขณะนั้นทางนิติบุคคลก็ยังไม่กล้าเปิดห้องเพราะก็กลัวติดเชื้อ ตนก็เลยพยายามโทรหา 1669 ที่หนองคายเพื่อให้เขาประสานงานให้แต่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าช่วยไม่ได้เนื่องจากว่าอยู่คนละเขต ตนได้โทรหาประกันสังคม แจ้งข้อมูลทั้งหมด ทางเจ้าที่บอกว่าจะเป็นฝ่ายโทรไปหาผู้ตายเอง แต่ในช่วงเวลานั้นเพื่อนของตนไม่สามารถพูดได้แล้ว เพราะไม่มีแรง แต่เจ้าที่ก็ยังยืนยันจะให้ผู้ป่วยเป็นคนพูด ตนจึงได้โทรไปหาเบอร์สายด่วน 1330 ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่สามารถรับเรื่องได้ เขาจะรับได้ก็ต่อเมื่อกรณีดังกล่าวผู้ป่วยยืนยันว่าติดโควิดแล้ว ตนจึงอธิบายไปว่า เพื่อนตนมีความเสี่ยงสูง แต่ว่ายังไม่รับการตรวจ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถช่วยได้ ตนพยายามติดต่อผู้ตายตลอด ข้อความสุดท้ายที่อีกฝ่ายส่งมาคือ จะพยายามเข้มแข็ง

           จนกระทั่งเวลา 10.11 น. ของเมื่อวาน ได้รับข้อความว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในห้องและพยายามปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่ทัน เสียชีวิตแล้ว ตนเลยบอกเจ้าหน้าที่ถ้าไม่ติดว่าจะต้องรักษาโควิดอยู่ จะขับรถจากหนองคายไปกรุงเทพเพื่อพาเขาไปหาหมอ ถ้าพี่เขาได้ไปโรงพยาบาล คงไม่ตาย

         หลังจากเพื่อนตนเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ เพราะจะต้องติดต่อหาญาติก่อน ตนก็ใช้เวลาติดต่อหาญาติจนเจอ จากนั้นก็เผาศพไปแล้ว