จากกรณีตำรวจกองปราบฯตามจับนายธนเดช หรือรุจ แก้วช่วง อายุ 27 ปี หนุ่มบาร์โฮสต์ ก่อเหตุแชทลวงสาวมากักขัง ทำร้ายทารุณโหด จนเหยื่อเสียชีวิต และบาดเจ็บสาหัส ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 14 ต.ค. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. เปิดเผยว่า ในส่วนของกองปราบฯ ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนสน.บางยี่ขัน รับตัวไปดำเนินคดีกรณีการเสียชีวิตของน.ส. กมลเนตร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่าย่านบางกอกน้อย ฯ ส่วนคดีทำร้ายร่างกายน.ส.เนย (นามสมมติ) อายุ 31 ปี เหยื่อที่กองปราบฯ บุกช่วยเหลือออกมาได้ ทราบว่าพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทลุง กำลังสอบสวน พร้อมขออายัดตัวผู้ต้องหานำตัวกลับไปดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย
พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าทางการสืบสวน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหาเข้าแจ้งความเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบให้ชัดเจน เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย ที่ยังไม่กล้าเข้าแจ้งความอีกด้วย
ทั้งนี้มีรายงานว่า สำหรับประวัติของนายธนเดช ทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากบ้านที่จ.ยะลา มาตั้งแต่อายุ 14 ปี หลังจากครอบครัวแตกสลาย พ่อ-แม่แยกทางกัน นายธนเดช นั้นทนความรุนแรงของแม่ไม่ได้ เพราะมักจะลงมือทำร้ายนายธนเดชทุกครั้งที่เมาเหล่ จนต้องหนีขึ้นมาที่กรุงเทพฯ โดยไม่มีเป้าหมายว่าจะไปไหน และมีเงินติดตัวมาแค่ 100 บาท
เมื่อเข้ามาถึงกรุงเทพฯ แล้วก็ไปเป็นเด็กเร่ร่อนอยู่ที่สนามหลวง จนสุดท้ายก็ถูกชักชวนเข้าไปอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ และยาเสพติด จนทำให้เคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง ส่วนเหยื่อสาวที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น ทราบว่า ผู้ตายเป็นคนมาจากจ.อำนาจเจริญ ที่เข้ามาทำงานในกทม. กระทั่งเกิดมารู้จักกับผู้ต้องหาผ่าน ทางเฟซบุ๊ก จนสนิทสนมกัน
หลังจากผู้ตายแชทคุยกับผู้ต้องหาอยู่ได้ 2-3 เดือน นายธนเดชก็ัชักชวนให้มาอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าเกิดเหตุ หลังจากนั้นเป็นต้นมาผู้ตายมักถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนเพื่อนบ้านรู้สึกเอื่อมระอา เน่ัอวจากคิดว่า เป็นเรื่องของผัว-เมียทะเลาะกัน ทำให้ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว สุดท้ายก็เลยทำให้ถูกทำร้ายจนถึงกับเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนนายธนเดชก็รฝหลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
Advertisement