เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.3 บก.ปคม. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. บก.ปปป. และ บก.ปอท.เปิดปฏิบัติการ “คอสเพลย์อวตาร” นำหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 95/212 ม.3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อจับกุมตัวนายปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี ผู้ต้องสงสัยใช้สื่อสังคมออนไลน์ และแพลตฟอร์มต่างๆทางอินเตอร์เน็ต แสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กและสตรี
จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าว มีลักษณะเป็นบ้านพักสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายปิยบุตรกำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานนอกบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นขออนุญาตเข้าตรวจสอบภายในบ้าน พบเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ เครื่อง เมื่อตรวจสอบข้อมูลภายในพบไฟล์รูปภาพและคลิปวิดีโอโป๊เปลือย หรือ สื่อลามกอนาจารเกี่ยวกับเด็กเป็นจำนวนมาก พร้อมกับพบหมายเรียกเข้าให้ปากคำในคดีลักษณะดังกล่าวจากท้องที่อื่นๆอีกหลายหมาย จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมคุมตัวมาทำการสอบปากคำ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งพร้อมครอบครัว เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ว่า น้องไข่มุก อายุ 14 ปี บุตรสาวของตนเอง ได้ถูกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นบัญชีแอค์เคาท์แอพพลิเคชั่นดิสคอร์ด และ ทวิตเตอร์ปลอม หรือ อวตาร ทักข้อความมาทำทีตีสนิท ก่อนล่อลวงให้ส่งภาพโป๊ให้แลกกับเงิน แต่เมื่อได้ภาพไปแล้วกลับนำภาพดังกล่าวมาข่มขู่แบล็คเมลล์ ด้วยการให้วิดีโอคอล แล้วสั่งให้ทำในสิ่งที่ตนต้องการในทางลามกอนาจาร หากไม่ยอมทำตามจะนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่ จนทำให้ น้องไข่มุก เกิดความเครียดจนตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา หลังทราบเรื่องทางตำรวจ บก.ปปป. จึงประสานข้อมูลร่วมกับตำรวจ บก.ปคม. บก.ปอท. ร่วมกันแกะรอยสืบหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ จนทราบว่าเป็นนายปิยบุตร ทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่บริษัทสื่อสารแห่งหนึ่ง
อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนยังพบว่า แม้จะเกิดเรื่องสลดดังกล่าวขึ้น แต่ตัวนายปิยบุตร กลับไม่มีท่าทีสลดหรือสำนึกในความผิดของตัวเอง ยังคงมีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวเช่นเดิม ล่อลวงเด็กสาวในกลุ่มคอสเพลย์ คนอื่นๆ ให้ส่งภาพโป๊เปลือยโชว์ของสงวนของลับมาให้ จากนั้นก็จะบันทึกภาพนั้นไว้ แล้วนำไปหาผลประโยชน์ให้ตนเอง ซึ่งถือเป็นภัยร้ายต่อสังคม และ เยาวชน เจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยสืบหาพยานหลักฐานจนนำมาสู่การเช้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนช่วงแรก นายปิยบุตรให้การปฏิเสธ รับเพียงว่า เก็บคลิปภาพเด็กสาวในโทรศัพท์จริง แต่เป็นเด็กสาวที่เคยพูดคุยกัน หรือแฟนสาว รวมไปถึง ภาพที่เซฟบันทึกมาจากทวิตเตอร์ต่างๆ เพราะเป็นคนชอบสะสมภาพสาวแต่งคอสเพลย์ ไม่ได้มีการข่มขู่หญิงสาวเหล่านั้นแต่อย่างใด ก่อนที่ภายหลังจะยอมรับว่าเคยมีการข่มขู่เหยื่อว่าจะเอาภาพไปปล่อยตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆจริง เบื้องต้นเข้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามความผิดซึ่งหน้าก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
Advertisement