เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทาเข้าพบ พ.ต.ท.จตุภูมิ รักษาภักดี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ผบก.ปปป.) ขอให้ดำเนินการตรวจสอบ การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท อันได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ของรอง ผบ.ตร. นายหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2566 รอง ผบ.ตร. คนดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ให้ลูกน้องเป็นผู้ชำระค่าไฟฟ้ารายเดือน เดือนละประมาณ 10,000 กว่าบาท แต่ต่อมาปรากฏว่าผู้ที่ชำระเงินดังกล่าว คือ นายครรชิต ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีโอนเงินจากบัญชีของตนเอง จ่ายค่าไฟฟ้า บ้าน 2 หลัง คือ ในซอย วิภาวดี 60 ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แยก 3-9 ถนนวิภาวดีรังสิต ตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครอีกทั้งจากข้อมูลยังพบว่า นายครรชิต ไม่ใช่ลูกน้องโดยตรงของ รอง ผบ.ตร. ท่านนั้น แต่เป็นบุคคลที่ใช้บัญชีเกี่ยวของและมีความสัมพันธ์กับการทำเว็ปพนันออนไลน์เครือข่ายของมินนี่เว็ปพนันออนไลน์
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การที่รอง ผบ.ตร. ท่านนั้น รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด จากนายครรชิต เจ้าของบัญชี ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่อันควรได้ตามกฎหมาย จึงอยากขอให้ทาง บก.ปปป. ช่วยตรวจสอบพฤติการ์ณดังกล่าว ว่า เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณี การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว หรือไม่
“นอกจากนี้ในส่วนของ เครือข่ายในกลุ่มผู้สื่อข่าว ที่ คาดว่าจะถูกดำเนินคดี ทราบว่ามีอยู่ประมาณ 10 คน ที่รับเงินจากการจ้างทำข่าว หรือ เขียนเชียร์ มีทั้งการจ่ายเป็นรายเดือน โดย ใช้บัญชีม้าของมินนี่ในการโอนให้ ซึ่งอีกไม่นานคาดว่ารายละเอียดส่วนนี้จะเริ่มกระจ่างชัดมากขึ้น”
Advertisement