วันที่ 12 มิถุนายน 64 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยความคืบหน้ารุ่นพี่อุเทรถวายทำร้ายรุ่นน้องเสียชีวิตว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 เพื่อสอบปากคำพยานทั้งหมด 40 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาชั้นปี 1 และปี 2 แต่ขณะนี้ยังไม่มีนักศึกษาคนใดติดต่อเข้าขอพบกับพนักงานสอบสวน หากออกหมายเรียกทั้งหมด 2 ครั้ง ไม่มาพบพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน ก็จะดำเนินคดีข้อหาขัดหมายเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนกรณีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุนั้น พ.ต.อ.พันษากล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการสอบปากคำพยานทั้งหมดให้ได้ข้อเท็จจริงว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมอะไร รวมถึงมีการทำร้ายเกิดขึ้นจริงหรือไม่และเกิดขึ้นอย่างไร จึงสามารถขออนุมัติศาลหมายจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ แต่ผลการสอบปากคำพยานทั้งหมดเพื่อสรุปข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าตรงกับข้อมูลผู้เสียหายให้ไว้หรือไม่ ว่ามีการลงมือทำร้ายร่างกายอย่างไร จากกลุ่มนักศึกษาทั้ง 12 คนหรือไม่ต่อไป เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากหากมีการทำร้ายกันเกิดขึ้นจริง ก็ต้องทำการตรวจสอบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการกระทำของบุคคลใด เพราะก็เป็นไปได้ที่การเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายจากคนที่ลงมือคนแรกหรือใครคนใดคนหนึ่งก็เป็นไปได้ทั้งหมด
ส่วนกรณีการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่มีการอ้างว่าเสียในพื้นที่เกิดเหตุนั้น ผกก. กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้มีการตรวจสอบกรณีภาพกล้องวงจรปิดที่มีการอ้างว่าเสียภายในบริเวณที่เกิดเหตุบางส่วนว่าเกิดจากสาเหตุใดแล้ว เนื่องจากยังไม่ทราบว่ากล้องวงจรปิดเสียเพราะสาเหตุใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบโดยเฉพาะฮาร์ทดิสก์ที่บันทึกข้อมูลว่าเสียจากสาเหตุใด อาทิ ไม่ว่าจะเป็นจากกรณีไฟดับหรือไฟตก หรือเสียตั้งแต่ยังไม่มีการบันทึกภาพเลยหรือไม่
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า จุดที่มีการอ้างว่าทำร้ายร่างกายกันนั้นไม่มีภาพกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด
Advertisement