เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 พ.ค.65 ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ นักเทศน์ชื่อดังที่ตกเป็นข่าวฉาวมีความสัมพันธ์กับสีกา เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และ คณะพนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา “ยักยอกทรัพย์” จากกรณีเบิกถอนเงินวัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช มาให้สีกาตอง และ พระคนกลาง เพื่อปกปิดเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อสักถามรายละเอียดต่างๆของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวว่า ในวันนี้ได้นัดหมายอดีตพระกาโตะเพื่อทำการสอบปากคำ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา จากการที่พระราชวรญาณ เจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร แจ้งความดำเนินคดีกับอดีตพระกาโตะ ฐานยักยอกทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำในประเด็นการเบิกถอนเงิน ต้องรอให้สอบปากคำแล้วเสร็จ จึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ส่วนเรื่องเงินนั้น ได้มีการตรวจสอบรายละเอียดทางด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้มีอำนาจในการเบิกเงินของวัด ซึ่งรวมถึงอดีตพระกาโตะเช่นกัน ซึ่งจะทำการตรวจสอบว่านำเงินที่เบิกถอนในแต่ละยอดนั้นไปทำอะไร โดยอดีตพระกาโตะได้ให้ข้อมูลว่าตามระเบียบของการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีวัด ต้องใช้มีผู้ที่เกี่ยวข้อง 3 คน ลงนาม หรือ 2 ใน 3 คนลงนาม จึงจะเบิกเงินไปได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำว่ามีการเบิกเงินในลักษณะดังกล่าวกี่ครั้ง มีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบพยานหลักฐานจากธนาคารมาประกอบ ส่วนการแจ้งข้อหาอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการเชิญตัว อดีตพระกาโตะมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ เนื่องจากภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นำโดย บก.ปปป. และ บก.ป. เข้าดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบว่า จากการตรวจสอบสถานะตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาตินั้น ทราบว่าหลังจากที่หลวงพ่อกล่อม เจ้าอาวาสคนก่อน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของอดีตพระกาโตะ ได้มรณะภาพเมื่อปี 64 หลวงพ่อกล่อมได้ฝากให้พระราชวรญาณ เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม กทม. ซึ่งเป็นเครือญาติกันให้เป็นผู้ดูแลวัดต่อ โดยเจ้าคณะตำบล ได้แต่งตั้งพระราชวรญาณ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดอย่างถูกต้องตามขั้นตอน แต่เนื่องจากอุปสรรคเรื่องระยะทางที่ไกลพอสมควร มีความยากลำบากในการดูแลวัด พระราชวรญาณจึงได้มอบหมายหน้าที่ให้อดีตพระกาโตะ ช่วยดูแลจัดการเรื่องวัดในตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสแทน โดยไม่ปรากฏว่ามีการตั้งแต่งเป็นหนังสือหรือเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการ จึงเชื่อว่าเป็นเพียงการมอบหมายหน้าที่ด้วยทางวาจาให้ดูแลวัด จึงมีความเป็นไปได้ว่า อดีตพระกาโตะ อาจไม่ใช่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย พรบ.สงฆ์ และอาจไม่มีความผิดในฐานะเป็นเจ้าพนักงานทุจริตงินวัด ตาม ป.อาญา มาตรา147 แต่อาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดฐานยักยอกเงินวัด ตาม ป.อาญา ม.352 แทน
ทั้งนี้ภายหลังพระราชวรญาณในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติที่แท้จริง ทราบเรื่องราวทั้งหมดว่าเกิดความเสียหายกับวัด จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ผบก.ปปป. ให้สอบสวนดำเนินคดีกับอดีตพระกาโตะและผู้ที่เกี่ยวข้องในข้อหายักยอกทรัพย์หรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ในส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินที่อดีตพระกาโตะยักยอกจากวัดนั้น อาจมีความผิดฐานรับของโจร ทั้งสีกาตองและ คนกลางหรือพระดอนผู้รับเงินดังกล่าวชื่งอ้างว่าจะนำไปเคลียร์สื่อ และในกรณีของสีกาตองนั้น หากพฤติการณ์ของสีกาตองเป็นไปในลักษณะข่มขู่เพื่อเรียกร้องเงินแลกกับการปกปิดความลับหรือแบล็คเมลจริงนั้นก็อาจเข้าข่ายเป็นการรีดเอาทรัพย์ผู้อื่น ซึ่งมีอดีตพระกาโตะในฐานะเป็นผู้เสียหาย ย่อมสามารถใช้สิทธิเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้เช่นกันเพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ต่อมาเวลา 16.00 น. อดีตพระกาโตะ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ยอมรับว่าเบิกเงินวัดไปใช้แก้ปัญหาส่วนตัวจริง แต่เป็นการขอยืมจำนวน 6 แสนบาท โดยเบิก 2 ครั้ง ครั้งแรก 5 แสนบาท และ 1 แสนบาท ซึ่งการเบิกเงินดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่วัดอีก 1 คน ร่วมลงนามตามระเบียบ โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่าการขอยืมเงินวัดถือเป็นความผิด พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะไม่ได้มีเจตนายักยอกทรัพย์แต่อย่างใด โดยได้เตรียมหลักทรัพย์มาขอยื่นประกันตัวกับพนักงานสอบสวนด้วย
อดีตพระกาโตะยังกล่าวอีกว่า ขอขอบคุณคนสำหรับคนที่เข้าใจตนเอง ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็ขอโทษ ยอมรับผิดที่พลาดไปแล้ว และขอโทษสื่อมวลชนที่ไม่ได้มาเปิดเผยความจริงตั้งแต่ตอนแรก เพราะยังครองผ้าเหลืองอยู่ แต่ตอนนี้ตนเป็นฆราวาสแล้ว พร้อมที่จะพูดความจริงทุกอย่าง อีกทั้งยังฝากถึงพระภิกษุสงฆ์ทุกรูป ให้ดูตนเองเป็นตัวอย่าง อย่าทำเหมือนเช่นตนเอง และอยากให้ช่วยกันทำนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ต่อไป
Advertisement