หนุ่มใหญ่ วัย​ 48 อ้างตัวเป็นตำรวจ กรรโชกทรัพย์​ “แท็กซี่” และ​ “วิน​ จยย.​รับจ้าง” อ้างซื้อของผู้ใหญ่ก็ฉกทรัพย์หนีหาย​ พบก่อเหตุหลายท้องที่

            (31 พ.ค.65)​ เมื่อเวลา​ 13.00 น.​ ที่​ สน.สำราญราษฎร์​ เจ้าตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการจับกุม​ นายวิลัย พันธ์ศรี อายุ 48 ปี พร้อมของกลาง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ที่คนร้ายสวมใส่ในวันเกิดเหตุ โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณแยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
            โดย​ พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ กล่าวว่า​การจัยกุมในครั้งนี้​ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 26 พ.ค.เวลาประมาณ 09.30 น. ที่ผ่านมา มีคนร้ายหลอกลวงวินจักรยานยนต์รับจ้าง ได้ทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสด 100 บาท หน้า รร.ศิริพงษ์ ซ.สำราญราษฎร์ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเมื่อวันที่ 27 พ.ค.เวลาประมาณ 02.10 น. หลอกลวง วินจักรยานยนต์รับจ้าง ได้ทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสด 2,000 บาท บริเวณ ตรอกไข่ ซ.สำราญราษฎร์ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และเมื่อวันที่ 29 พ.ค. เวลาประมาณ 01.50 น. หลอกลวง ผู้ขับรถยนต์รับจ้างโดยสารไม่ประจำทาง(Taxi) ได้ทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสด 2,300 บาท บริเวณ หน้าศาลเจ้าพ่อเสือ ถ.ตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
         จากการตรวจสอบทั้ง 3 เหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลเดียวกัน โดยใช้พูดจาดีและแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.บางยี่ขัน และจะเริ่มคุยว่าอยู่กับผู้ใหญ่ ต้องไปซื้อของให้ผู้ใหญ่ จากนั้น จะขอยืมเงิน และทำทีขอจอดรถที่ร้านค้าเพื่อซื้อของ และเมื่อซื้อของแล้ว ก็จะบอกว่าตนลืมโทรศัพท์ และจะขอยืมโทรศัพท์มือถือจากเหยื่อ โดยหลอกว่าจะโทรหาผู้ใหญ่ จากนั้นก็จะเดินหลบหนี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 30 พ.ค.เวลาประมาณ 20.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ ทำการสืบสวนทราบว่า คนร้ายผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือนายวิลัย พันธ์ศรี อายุ 48 ปี ก่อเหตุดังกล่าวจึงได้ติดตามจนกระทั่งพบว่าปรากฎตัวบริเวณแยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จึงได้ควบคุมตัวสอบปากคำเพิ่มเติม
        จากการสอบสวนนายวิลัยให้ยอมรับว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุทั้ง 3 เหตุจริง และยังก่อเหตุในพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2 อีก หลายครั้ง ส่วนของกลางทรัพย์ที่เอาไป ตนเอาไปจำหน่ายหลายแห่ง จดจำไม่ได้ว่าเอาทรัพย์ใดไปขายที่ใดบ้าง ส่วนใหญ่ก่อเหตุคนขับแท็กซี่และคนขับวินรถจักรยานยนต์ สาเหตุที่ทำเพราะปกติทำงานรับจ้างทั่วไปแต่ตกงานไม่มีงานทำจึงก่อเหตุดังกล่าว ส่วนประวัติเคยถูกดำเนินคดีปี 60 พื้นที่สน.สำราษฎร์ และพื้นที่สน.บางยี่ขัน คดียาเสพติด และคดีชิงทรัพย์พื้นที่สน.บางกอกน้อย
          “ฝากเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนและผู้ที่ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะเพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่า ให้ระมัดระวังตัวเอง อย่าให้บุคคลแปลกหน้ายืมทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นเงินสด หรือ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งการที่เรามีน้ำใจเป็นสิ่งที่ดี แต่หากมีบุคคลแปลกหน้ามาหยิบยืมทรัพย์สินบางครั้งต้องรู้จักปฏิเสธเพื่อเป็นการป้องกันภัยคุกคามที่อาจจะเกิด หรือ หากให้ยืมก็ต้องอยู่ในสายตาของเรา และต้องหมั่นคอยสังเกต” พ.ต.อ.ทศพล กล่าว
            เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน ในเวลากลางคืน” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
Advertisement