วันที่ 22 ก.พ.64 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. ร่วมแถลงผลการจับกุมนายไปรวิทย์ หรือ นัฐพงศ์ มีสวน อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 867/2546 ลงวันที่ 18 ส.ค.2546 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต” หลังจับกุมตัวได้ที่ บริเวณขนำไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 9 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2544 ก่อนเกิดเหตุนายจรูญ (สงวนนามสกุล) ผู้ตาย และพวก ได้ไปเที่ยวดื่มกินที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช แต่เมื่อเมาได้ที่กลับส่งเสียงดังโวยวาย ขว้างปาขวดแก้วก่อความรำคาญให้กับลูกค้าโต๊ะอื่น จนเกิดไปกระทบกระทั่งมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับนายไปรวิทย์ หรือ เอ็ม ทุ่งใหญ่ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นขาโจ๋เจ้าถิ่น และพวกอีก 2 คน ที่นั่งดื่มกินอยู่โต๊ะข้างๆ ก่อนที่นายไปรวิทย์จะเดินไปหยิบปืนลูกซองที่ซ่อนอยู่หลังร้านออกมายิงใส่นายจรูญจนล้มฟุบลงกับพื้น ก่อนลากตัวออกมาบริเวณหน้าร้านแล้วใช้มีดพร้าฟันซ้ำเข้าไปที่ใบหน้าและลำคออีกหลายครั้งจนเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเพื่อนของนายจรูญ ที่พยายามจะเข้ามาช่วยเหลืออีก 1 นัด จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุ นายไปรวิทย์ พร้อมพวกที่ร่วมก่อเหตุอีก 2 คน จึงได้รีบแยกย้ายกันหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปซ่อนตัวต่างจังหวัด ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ สภ.ทุ่งใหญ่ จะสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ 2 ราย คงเหลือเพียงนายไปรวิทย์ ผู้ต้องหารายนี้เพียงคนเดียวที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีเรื่อยมา จนเวลาผ่านไปนานกว่า 19 ปี 11 เดือน 14 วัน และเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 16 วัน คดีดังกล่าวก็จะขาดอายุความลงในวันที่ 9 มี.ค.2564 ที่จะถึงนี้ ทางครอบครัวของผู้ตายเลยต้องนำเรื่องมาร้องความเป็นธรรมกับทางกองปราบเพื่อให้ช่วยเร่งติดตามจับกุมตัว ทางเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. จึงนำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสเป็นการด่วน กระทั่งทราบว่าปัจจุบันนายไปรวิทย์ ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายไปรวิทย์ ให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้เป็นคนทำให้นายจรูญเสียชีวิต รับเพียงว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงใส่นายจรูญจริง แต่กระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ ส่วนบาดแผลที่ทำให้นายจรูญเสียชีวิต น่าจะเกิดจากการที่นายธงชัย หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ใช้มีดพร้าฟันซ้ำเข้าไปที่ใบหน้าและลำคอหลายครั้งมากกว่า ทั้งนี้หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปพักอาศัย ที่ อ.หัวไทร ซึ่งเป็นบ้านของญาติของมารดา ประมาณ 1 เดือน แล้วเปลี่ยนชื่อจากนายไปรวิทย์ มาเป็นนายนัฐพงศ์ เพื่อสะดวกต่อการหลบหนี จากนั้นไปซ่อนตัวต่อในพื้นที่ จ.ยะลา ทำงานรับจ้างเป็นช่างในอู่ซ่อมรถยนต์ ประมาณ 7 ปี แต่ระหว่างนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมจับกุมภายในอู่ แต่โชคยังดีสามารถไหวตัวหลบหนีออกมาได้ทัน จึงหลบหนีมาทำงานรับจ้างเป็นช่างซ่อมรถยนต์ที่กรุงเทพ และพักอยู่ในอู่ซ่อมรถตลอดมา
กระทั่งเมื่อเมื่อคดีใกล้จะขาดอายุความแล้ว จึงคิดจะเปลี่ยนที่อยู่ชั่วคราวหลบหนีไปพักอาศัยกับเพื่อนสนิท ที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดูแลสวนผลไม้ ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่ง สภ.ทุ่งใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement