ส.ส.ก้าวไกลพบ ตร.หลังโดนหมายเรียกดูหมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตร.เผยเอาจากทวิต

         วันที่ 27 มีนาคม 64 ที่สน.นางเลิ้ง นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา กรณีดูหมิ่นเจ้าพนักงานด้วยการโฆษณา ซึ่งตำรวจได้ออกหมายเรียกให้มาพบในเวลาดังกล่าว
         โดยนางอมรรัตน์เผยว่า ตนยังไม่ทราบว่าข้อกล่าวหานี้เกิดขึ้นเมื่อใด ตอนไหน ต้องเข้าไปพบตำรวจก่อน แต่ไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ก็ทำด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว พลเมืองก็สามารถทำได้ในการตรวจสอบรัฐบาล เราเป็นฝ่ายตรวจสอบสามารถทำได้ ก็ไม่ได้วิตกอะไร ก็สู้ไปตามขั้นตอนกฎหมาย เราก็สามารถทำได้โดยเฉพาะการวิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ซึ่งคนที่แจ้งความตนนั้นก็ไม่มีใครรู้จักว่าเป็นใคร
          ทาง พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก.(สอบสวน) กล่าวว่า กรณีนี้นางอมรัตน์ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ซึ่งเป็นหลักฐานประกอบการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ โดยรายละเอียดอยู่ระหว่างการสอบปากคำ
          นางอมรัตน์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทนายความว่าได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งมีนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีมาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นการกระทำผิดจากการโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่านายกรัฐมนตรีไม่เสียภาษี และรับเงินเกิน 3,000 บาท แต่ก็ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะทนายแจ้งว่าเป็นโทษปรับ และจะต่อสู้คดีในชั้นศาลจนถึงที่สุด
           นางอมรัตน์ระบุว่า ในคดีนี้ตนเองถูกแจ้งความดำเนินคดี 3 กรณี คือ การโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 และวันที่ 12 กันยายน อีกกรณีเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งให้ข้อสังเกตว่าโดยปกติการวิพากษ์วิจารณ์ขณะอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่สามารถนำมาฟ้องร้องดำเนินคดีกันได้ แต่นายกรัฐมนตรีกลับให้ตัวแทนมาแจ้งความดำเนินคดีตนเอง
          โดยหลังการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาก็ได้ให้การปฏิเสธ เพราะถือเป็นการกระทำตามขอบเขตกฎหมายที่ ส.ส.พึงกระทำได้ในการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีตามปกติ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป เพราะเห็นว่าการทำงานตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีอะไรดี ทุกสิ่งที่ตนนำเสนอไปไม่ว่าช่องทางใดก็ทำไปด้วยความระมัดระวัง ใครจะแจ้งความก็เป็นสิทธิ์ แต่อยู่ที่พนักงานสอบสวนและอัยการจะพิจารณาพยานหลักฐาน
Advertisement