วันที่ 26 พฤศจิกายน 63 หญิงสาว อายุ 26 ปี เล่าถึงเหตุการณ์ที่ขึ้นรถแท็กซี่เพื่อจะกลับบ้าน ระหว่างทาง แท็กซี่หันมาถามเรื่องการเมืองผู้เสียหายเลี่ยงไม่ตอบ แต่แท็กซี่กลับไปพอใจไล่ลงจากรถ เหตุเกิดช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ตนเรียกรถแท็กซี่หน้าห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์เพื่อกลับบ้านแถวสายไหม
โดยตอนขึ้นรถ ตนก็นั่งเงียบมาตลอดทาง เพราะว่าคนขับแท็กซี่เปิดวิทยุเรื่องการเมือง ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งคนขับหันมาถามว่า ไปชุมนุมมาหรือไม่ ตนก็บอกว่าไม่ได้ไปเพราะเพิ่งเลิกงาน ทางคนขับบอกว่าไม่เห็นด้วยที่ไปชุมนุมกันหน้า SCB สำนักงานใหญ่ ทางคนขับก็ถามต่อว่า คิดเห็นอย่างไรบ้าง ตอนนั้นตนก็ตอบไปว่าขอไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องการเมือง เพิ่งเลิกงาน เหนื่อย ไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว จากนั้นคนขับก็ปิดวิทยุ แสดงอาการไม่พอใจ บอกว่าถ้าไม่พอใจลงจากรถไปเลย ตอนนั้นเราก็ไม่พอใจเหมือนกัน ก็เลยถามไปว่าที่ไล่ลงจากรถ เพราะไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองเหรอ เราพยายามอธิบายให้เขาฟังว่า พี่ขับแท็กซี่ พี่มีหน้าที่บริการลูกค้าไม่ควรไล่ลงจากรถแบบนี้ เขาก็ด่าทอเราอีกว่าโง่แล้วอวดฉลาด ด่าถึงบุพการี คิดว่าเราอยู่ฝั่งตรงข้าม โวยวายแล้วเปิดเก๊ะหน้ารถ เอาเสื้อสีเหลืองมาโชว์ บอกว่าเขาทำงานอยู่ที่สถาบันปกป้องพระมหากษัตริย์ แต่เราไม่ได้สนใจ ไม่เข้าใจว่าแค่ไม่แสดงความคิดเห็นด้านการเมือง ก็ไล่ลงจากรถแล้วถูกด่าทอมาตลอดทาง จนเราไม่ไหว จะลงจากรถให้ได้ เขาก็จอดแถวเสถียรธรรมสถาน เราก็กำลังจะลง แต่เขาก็กระชากแขนแล้วบอกให้จ่ายเงิน ตอนแรกเราไม่จ่าย เพราะคิดว่าคนขับเป็นคนไล่ลงจากรถเอง ซึ่งตอนนั้นเราก็ยอมจ่ายแล้วบอกว่าเก็บเงินค่าโดยสารนี้ไว้ดี ๆ เพราะพี่จะต้องเอาไปจ่ายค่าปรับ
พอลงจากรถกลับบ้านมา ครอบครัวก็พาไปหาหมอ เพราะคนขับรถกระชากแขน ทำให้แขนถลอก จากนั้นก็ไปแจ้งความไว้แล้วที่สน.คันนายาว ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้ร้อยเวรโทรมาหาบอกว่าให้นัดเจรจาไกล่เกลี่ยกับคนขับรถแท็กซี่ ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เรามองว่าไม่อยากจะได้เงิน แต่อยากจะให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวเอง ไม่อยากจะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก แม้ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ควรจะได้รับคำด่าทออะไรทั้งนั้น
Advertisement