สายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายถูกหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจ โฆษณาโปรโมทและรีวิวแอป พลิเคชั่น ทุกประเภท ผ่านออนไลน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจ ปอศ.

           (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พากลุ่มตัวแทนผู้เสียหายกว่า 10 คน จากผู้เสียหายทั่วประเทศหลายพันรายที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจ โฆษณาโปรโมทและรีวิวแอปพลิเคชั่น ทุกประเภท ผ่านทางออนไลน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทองผกก.4 บก.ปอศ.

 

         โดยนายเอกภพ กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายกว่า 1000 คนที่รวบรวมรายชื่อมาในวันนี้เป็นเพียงบางส่วนและคาดว่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ที่ถูกหลอกให้ลงทุนโดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ซึ่งตอนนี้มีการหลอกลวงเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากรวมมูลค่าความเสียหายรวม 1,000 ล้านบาท จึงอยากขอให้ตำรวจสอบสวนและติดตามบริษัทที่หลอกลวงประชาชนนำมบลงโทษตามกฏหมายก่อนที่จะไปหลวงลวงประชาชนต่อ

        ทั้งนี้ ตัวแทนผู้เสียหาย รายหนึ่งเปิดเผยว่า เมื่อช่วงสองอาทิตย์ ที่ผ่านมาตนได้ร่วมลงทุนเงินไป 1 แสนบาท โดยเริ่มจากไปเห็น โฆษณาใน Facebook บอกว่าทำงานง่ายที่บ้านสามารถรับเงินแสน ก็เลยกดเข้าไปดู จากนั้นก็มีข้อความทักมาหาพร้อมลงรายละเอียดงานที่จะทำ ตนเองคิดว่าเป็นงานง่ายๆ ไม่ต้องลงแรงอะไรมาก แค่ลงทุนเงิน ก็ได้กำไรแล้ว เลยโอนเงินลงทุนไป1แสนบาท จากนั้นก็เริ่มทำงานโดยตนเองอยู่ในระดับVIP7 หลังกดเข้าไปชมและรีวิวสินค้าทางยูทูปก็จะได้เงิน ครั้งละ33บาท มีรายได้สูงสุดวันละเกือบ2,000บาท และต่อเดือนก็ได้เงินเกือบ60,000บาท แต่ล่าสุดเมื่อวันที่21จะเข้าไปถอนเงินในบัญชีแต่กลับถอนไม่ได้ จากนั้นมีข้อความแจ้งส่งมาในกลุ่มอ้างว่าถูกยูทูปยกเลิกสัญญาทำให้ไม่สามารถเบิก ถอนเงินในระบบได้ พร้อมกับมีข้อความระบุอีกว่าห้ามไม่ให้สมาชิกไปแจ้งความหรือเผยแพร่ไม่อย่างนั้นจะไม่จ่ายเงินให้ ผ่านมาหลายวันก็เงียบ จนสมาชิกในกลุ่มออกมารวมตัวกันถึงรู้ว่ามีคนถูกหลอกเป็นจำนวนมาก

           ส่วนผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทJN จะได้ย้ายช่องทางในการโฆษณาปิดจาก Facebook ไปใช้ช่องทางของ Instagram แทนซึ่งคิดว่ายังมีประชาชนอีกหลายคนถูกหลอกเหมือนกลุ่มของตนเองจึงอยากเตือนและอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวของเจ้าของมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
Advertisement