เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 64 ที่ จ.ตรัง สองสามีภรรยา เจ้าของร้านอาหารมุสลิมช่วยกันดูแลชายชราวัย 86 ปี ล้มป่วย ทั้งที่ไม่ได้เป็นญาติหรือมีสานสัมพันธ์อันใดต่อกัน เพียงแต่สงสารเพราะตาแกไร้ญาติขาดมิตร
สำหรับสองสามีภรรยาผู้ใจบุญนั้นชื่อ นายหมาด ปราบปราม หรือบังหมาด อายุ 68 ปี และภรรยาคือ น.ส.นิภา ลิขาล หรือหว่าภา อายุ 57 ปี เจ้าของร้านอาหารมุสลิม ได้ช่วยกันดูแลนายแผน นิลบรรพต หรือตาแผน อายุ 86 ปี ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และไม่มีผู้ดูแล แต่สามีภรรยาก็ยังไปดูแลเพราะอยู่บ้านติดกัน บริเวณริมถนนพาดรถไฟบ้านเช่าเลขที่ 71/2 ถ.ท่ากลาง ต.ทับเที่ยง จ.ตรัง
โดยทั้งคู่คอยทำหน้าที่ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ให้รับประทานยาประจำตัว คอยเช็ดตัว เช็ดอุจจาระปัสสาวะพร้อมเปลี่ยนแพมเพิร์ส เสมือนเป็นญาติของตัวเอง ผู้คนที่รู้เรื่องนี้ต่างรู้สึกยอมรับและนับถือในความมีน้ำใจและหดหู่ใจไปในขณะเดียวกัน
น.ส.นิภาเล่าว่า เดิมทีตาแผนเป็นคน จ.ชัยภูมิ แต่ได้ย้ายมาอยู่ที่จ.ตรัง ตนรู้จักกันมานานเป็นหลาย 10 ปีแล้ว ก็ให้กินข้าวกินน้ำอยู่ตลอด เพราะตนเองเปิดร้านอาหาร ในอดีตตาแผนเป็นนักการภารโรงโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองตรัง หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนมาทำอาชีพขับรถขายไอศกรีม แต่ก็ได้หยุดไปเพราะเริ่มล้มป่วย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาได้อาศัยอยู่กับเพื่อนในบ้านพักเขตเทศบาลนครตรัง แต่หลังจากที่เพื่อนได้เสียชีวิต ตาเองก็ไร้ที่พักอาศัย ตนก็ได้ให้มาพักอยู่กับตน
จนกระทั่งเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ตาเกิดล้มป่วยหลายโรคด้วยกัน ทั้งต่อมลูกหมากโต กระดูกหลังงอ จนเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยตาเองมีลูก 1 คน แต่ได้เสียชีวิตลงไปก่อนหน้านี้ ส่วนญาติพี่น้องทั้งหมดก็อยู่ที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งหลังจากตาแผนล้มป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ตนก็ได้ติดต่อไปยังบรรดาญาติของตาแผน แต่กลับได้รับคำตอบมาว่า “ไม่เอาแล้ว ไม่ลงมารับไปแล้ว” พอทราบเรื่องตนเองก็รู้สึกหดหู่ใจเหมือนกันที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น ยอมรับว่าไม่ได้มีศักดิ์เป็นอะไรกัน แต่ดูแลทุกอย่างแม้กระทั้งเช็ดล้างอุจาระ ปัสสาวะ แต่มันก็ต้องทำเพราะสงสารแก
ที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้ามาดูแลอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ส่วนเงินที่แกได้รับจากสวัสดิการของรัฐก็มีเงินผู้พิการ เงินผู้สูงอายุ แต่ไม่สามารถไปเบิกถอนได้ เพราะต้องนำแกไปเบิกเอง แต่ตาเป็นผู้ป่วยติดเตียงก็ไม่สะดวกที่จะไป ส่วนจะให้ตนดูแลไปเบิกถอนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากธนาคารแจ้งว่าตนไม่ได้เป็นญาติพี่น้องหรือทายาทกับตาแผนจะไปทำธุรกรรมแทนก็ไม่ได้ ก็คิดว่าจะดูแลตาแผนไปจนกว่าจะล้มตายกันลงไป เพราะดูแลมาถึงขนาดนี้แล้ว อีกทั้งเป็นผู้ป่วยติดเตียงแบบนี้ ใครจะเอาไปดูแล แม้กระทั่งญาติๆ ก็ยังไม่เอาไปดูแลเลย ตอนที่ลุงแผนยังมีชีวิตปกติเป็นคนนิสัยดีมาก เป็นคนใจดี ขายไอศกรีมก็จะชอบแจกพวกเด็กๆ อยู่เสมอ
ขณะที่นายหมาดกล่าวว่า สาเหตุที่ตนดูแลตาแผน เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน แม้จะต่างศาสนากันก็ตาม ก็ต้องช่วยเหลือกันต่อไป ถ้ามีลูกหลานกลับมาดูแลเราก็หยุด แต่ถ้าไม่มีใครก็จะดูแลต่อไปอย่างนี้ ตนเองป้อนข้าวป้อนน้ำให้ทุกเวลา
ยืนยันว่าจะดูแลจนกว่าแกจะหมดลมหายใจ ตนเองช่วยเหลือทุกอย่างไม่เคยรู้สึกรังเกียจ มองว่ามันไม่ได้ถือว่าเป็นภาระ เพราะทุกคนเกิดมาต้องมีภาระกันทั้งหมด บางครั้งก็คิดว่าเป็นความสุขที่ได้ดูแลแก เคยทราบข่าวมาว่าตาแผนเคยมีความตั้งใจจะมอบร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่ด้วยเช่นกัน แต่เมื่อมีโรคประจำตัวก็ไม่สามารถกระทำได้
ทั้งนี้หากมีผู้ใจบุญ หรือญาติพี่น้อง รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ อยากดำเนินการเข้าช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อประสานได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-396-8816 น.ส.นิภา ลิขาล หรือหว่าภา ผู้ดูแล
Advertisement