“สมศักดิ์” เร่งขันน็อตรับ กฎหมาย “JSOC” บูรณาการร่วมทุกหน่วยงาน ออกกฎระเบียบ ติวเข้มจนท. 23 ม.ค.พร้อมลุยทันที หวังสร้างความปลอดภัยให้สังคม เผยราชทัณฑ์จัดสถานที่คุมขังฉุกเฉินแล้ว ส่วนคุมประพฤติเร่งทดสอบระบบ เตรียมกำไล EM ให้เพียงพอ

         เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ ในวันที่ 23 ม.ค.2566 ว่า ตนได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ในกระทรวงได้เตรียมความพร้อมอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตรง คือ กรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์ โดยขณะนี้ได้จัดทำร่างกฎกระทรวง ร่างระเบียบกรม รวมถึงการจัดคู่มือแนวทางในการทำงาน และการอบรมหลักสูตรต่างๆให้กับเจ้าหน้าที่ เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว นอกจากนี้ยังได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการความร่วมมือเพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำฯ ระหว่าง ศาล สำนักงานอัยการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรม ไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2565 เพื่อบูรณางานในส่วนที่เกี่ยวข้อง

             นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้มีการกำหนดสถานที่คุมขังหลังพ้นโทษออกมาแล้ว คือ เรือนจำกลางคลองเปรม เรือนจำกลางพิษณุโลก เรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสีมา เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี เรือนจำกลางระยอง และเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งสถานที่ทั้งหมดได้มีการจัดเตรียมความพร้อมและได้มีคณะกรรมการลงพื้นที่ไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของกรมคุมประพฤติ เราได้มีการทดสอบระบบของศูนย์ JSOC และเตรียมกำไล EM ไว้สำหรับติดให้กับกลุ่มผู้ต้องขังที่เข้าข่ายและศาลมีคำสั่งให้สวมกำไล รวมถึงการทำความเข้าใจและอบรบอาสาสมัครคุมประพฤติเพื่อช่วยงานในส่วนของการดูแลในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนอีกด้วย

          “การจัดทำกฎหมายนี้ เพื่อสร้างเครื่องมือและเกราะป้องกันให้กับสังคม โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก ขณะนี้ตนได้เร่งให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงเร่งทดสอบระบบต่างๆให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อเตรียมรองรับกฎหมาย ทุกกรมต้องทำให้ดีที่สุด อย่าให้ขาดตกบกพร่อง และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำลองการทำงานขึ้นมา เพื่อทดสอบระบบต่างๆให้สมบูรณ์ ทำให้เคยชินกับองค์ความรู้ใหม่ นอกจากนี้เราต้องเร่งสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ตัวกฎหมายให้ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนได้รับทราบ ทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ การลงพื้นที่ในเชิงรุกและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพและช่วยเหลือประชาชนสังคมให้ได้มากที่สุด”นายสมศักดิ์ กล่าว
Advertisement