สภาทนายความ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยืนยัน “พ่อค้าไก่หมุน” ปลอมเป็น “ทนาย” จริง เตรียมแจ้งความดำเนินคดีพรุ่งนี้ ส่วนที่ขึ้นว่าชนะคดี เป็นดุลยพินิจของศาล

         จากกรณีโลกออนไลน์มีกระแสวิพากวิจารณ์ พ่อค้าไก่หมุน ปลอมเป็นทนายความ และมีการขึ้นว่าความในศาลหลายคดี ซึ่งมีการว่าความชนะอัยการ ตามรายงานข่าว ว่าความตั้งแต่ปี 2561 ขณะนี้พ่อค้าไก่คนดังกล่าว ถูกจับข้อหาปลอมคำพิพากษา เจ้าตัวสารภาพทำจริง แต่ทำแค่ครั้งเดียว
         ล่าสุดวันนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลา​ 13.00​ น.​ ที่​ สภาทนายความ​ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ พร้อมด้วย นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโทคโนโลยีและสารสนเทศ และ นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการและกรรมการประชาสัมพันธ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวและชี้แจงข็อเท็จจริง เบื้องต้นระบุว่า เรื่อง ทนายความปลอม ตามที่ปรากฎข่าวกรณี ได้มีผู้ที่ไม่ได้เป็นทนายความ ทำการปลอมแปลงหลักฐานการเป็นทนายความ และไปดำเนินคดีในขั้นศาล ดังความแจ้งอยู่แล้วนั้น

          ทั้งนี้​ สภาทนายความได้ทำการตรวจสอบแล้ว ไม่ปรากฎชื่อบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมและทดสอบวิชาว่าความ จากสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ และไม่ได้จดทะเบียนรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความแต่อย่างไร ส่วนเลขหมายใบอนุญาต ให้เป็นทนายความที่ทำการปลอมแปลงนั้น ก็เป็นของทนายความท่านอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้อง กับผู้ปลอมแปลงใบอนุญาต ให้เป็นทนายความแต่ประการใด

           อย่างไรก็ตาม​ การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ จะได้ทำการมอบอำนาจให้ นายชัยวัฒน์ บุญเกื้อ นายทะเบียนสภาทนายความ ไปดำเนินคดีกับบุคคล ดังกล่าวโดยเด็ดขาดในทันที

          ด้านนายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยกรณีมีคนแอบอ้างเป็นทนายความ ทั้งที่ไม่มีชื่อในทะเบียนทนายความเข้ามาว่าความคดีของศาลยุติธรรมนั้นว่า ตนเพิ่งได้รับรายงาน และยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีกี่คดี อยู่ที่ศาลไหน เป็นคดีความอย่างไร และจากนั้นก็เป็นดุลยพินิจของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีนั้นๆ ที่จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป อย่างนำคดีที่ตัดสินไปแล้วมาพิจารณาตรวจสำนวนคดีใหม่ หรือพักการพิจารณาที่อยู่ระหว่างไต่สวนสืบพยานไปก่อน ก็อยู่ผู้พิพากษา
           “ที่ผ่านมาตนไม่เคยพบว่ามีการปลอมเป็นทนายมาขึ้นว่าความในศาลมาก่อน แต่จากที่ได้รับรายงานของศาลจังหวัดกำแพงเพชร ได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจแล้วเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา แต่ในส่วนของศาลหากพบว่ามีความผิด จะมีการไต่สวนละเมิดอำนาจศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งต่อไป ” โฆษกศาลยุติธรรมกล่าว

           เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการป้องกันตรวจสอบทนายปลอมอย่างไร โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวว่า หลังจากนี้ตนหวังว่าจะได้ประสานกับทางสภาทนายความฯ เพื่อในอนาคตจะมีการใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อโดยตรงกับศาลยุติธรรมและได้ข้อมูลของทนายความที่อัพเดตล่าสุดได้เสมอ แต่เท่าที่ทราบตอนนี้ทางสภาทนายความฯยังไม่พร้อม จึงอาจะจะต้องมีการปรึกษาหารือเรื่องนี้ต่อไป
Advertisement