“สนธิญา” ยื่นหนังสือร้อง ผบช.น. เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุคดีเด็กช่างกลยิงกัน “ครูเจี๊ยบ” เสียชีวิตมาดำเนินคดี พร้อมเสนอตั้งหน่วยเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วสกัดจับ ป้องปรามเหตุเด็กตีกัน

        (14 พ.ย.66)เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บชน. นายสนธิญา สวัสดี ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เพื่อให้ย้าย ผบก.น.5 และ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กรณีเด็กช่างกลยิงกัน “ครูเจี๊ยบ” เสียชีวิต และให้ บช.ก. และ บก.ป.เข้ามาดำเนินการแทน เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน

      โดยนายสนธิญา กล่าวว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาตลอด หน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงคือกองบัญชาการตำรวจนครบาลล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจปัจจุบันถือว่าเข้มแข็ง แต่จะทำอย่างไรให้มาตรการเหล่านี้เข้มแข็ง เพราะปัจจุบันประชาชนเมื่อเห็นนักเรียนช่างกลก็เกิดความหวาดกลัว เดินหนี กังวลเรื่องความปลอดภัย ชีวิตของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพเริ่มไม่ปลอดภัยอย่างมาก หากภายในอาทิตย์นี้ไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ก็ขอให้สั่งย้ายผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และผู้กำกับ สน.ทุ่งมหาเมฆ รวมทั้งหากเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีกภายในเดือนสองเดือนนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลควรจะย้ายตัวเองออกไป และให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง เข้ามาทำงานแทนวเพื่อต้องการให้มีการกวดขันเกี่ยวกับนโยบายนักเรียนช่างกลนี้มากขึ้น

         กรณีนี้ตำรวจสามารถประสานงานกับโรงเรียนและพื้นที่ต่างๆ เพื่อเร่งรัดจับกุมผู้ที่ก่อเหตุให้ได้และมีมาตรการป้องปราม หากป้องปรามแล้วยังเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ และผู้บัญชาการระดับสูงสุดของกองบัญชาการตำรวจนครบาลต้องรับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันปราบปรามและจัดการให้เด็ดขาดได้ไม่ใช่ปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้

        ทั้งนี้ได้เสนอให้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจของกองบัญชาการตำรวจนครบาลดูแลกรณีนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะเจ้าหน้าที่บาง สน. มีไม่พอ หน่วยเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นสามารถสกัดจับหรือป้องปรามได้

        จากสถานการณ์ดังกล่าวประชาชนมีความกังวลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาตลอด และมีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ แม้กระทรวงมหาดไทยห้ามพกอาวุธปืนแต่ปืนยังมีอยู่ทั่วไปในกรุงเทพฯ จึงขอให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลเคร่งครัดตรวจสอบให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น