ศาลฎีกาตัดสินลุงวิศวะผิดฐานยิงเด็กวัยรุ่นดับ แต่ให้รอลงโทษ 3 ปี
.
วันที่ 17 มิถุนายน จ.ชลบุรี ศาลฎีกาตัดสินคดีให้ที่นายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ อายุ 50 ปี หรือลุงวิศวะที่ใช้ปืนยิงนายนวพล ผึ่งผาย วัยรุ่นอายุ 17 ปีเสียชีวิตมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ แต่ไม่ปรากฏว่าลุงวิศวะเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เหตุคดีนี้เกิดจากฝ่ายผู้ตายจอดรถยนต์ขวางทางรถยนต์ของลุงจนเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย อันเป็นความผิดของฝ่ายผู้ตายด้วยส่วนหนึ่ง การรอการลงโทษลุงน่าจะเป็นประโยชน์แก่ตัวลุงและสังคมส่วนรวมมากกว่าการลงโทษจำคุกไปเสียทีเดียว
.
ศาลจึงได้พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน เมื่อรวมกับโทษในความผิดฐานพาอาวุธปืนแล้ว รวมจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี
.
รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ให้จำเลยไปเข้ารับการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการระงับควบคุมอารมณ์ที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนและให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์มีกำหนด 30 ชั่วโมง
.
คดีนี้ ศาลชั้นตันมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานพาอาวุธปืนและฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามฟ้อง ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืนฯ ปรับ 4000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2000 บาท รวมจำคุก 10 ปี และปรับ 2000 บาท ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของผู้ร้อง ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้องโจทก์และจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลย
.
ด้านศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าลุงวิศวะมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืนฯ ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 10 ปี และปรับ 2,000 บาท ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้องจำเลยฎีกา