ศรีสุวรรณจับพิรุธผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯจี้ ป.ป.ช.สอบ

            เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยเพื่อเอาผิดผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เหตุไม่ดำเนินการสอบสวนการกระทำความผิดของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่กระทำการจ่ายเงินแผ่นดินที่ผิดพลาดตามกฎหมาย กระทั่งเกษียณอายุราชการไป
          ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตามที่สถาบันวิจัย วว. ได้รับงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องต้นแบบการสกัดและทำแห้งกึ่งอุตสาหกรรม ในวงเงิน 5 ล้านบาท โดยเครื่องจักรดังกล่าวรอการติดตั้ง แต่ไม่สามารถติดตั้งได้ เนื่องจากยังไม่ได้สร้างอาคารเพื่อรองรับการติดตั้ง ต่อมาบอร์ดของสถาบันวิจัย วว. ได้อนุมัติเงินจำนวน 11,053,836.52 บาท เพื่อให้ก่อสร้างอาคาร สำหรับการติดตั้งครุภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว แต่ทว่ากลับไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างอาคารและติดตั้งครุภัณฑ์ดังกล่าวที่จัดซื้อจัดหามาได้ แต่กลับมีการสั่งจ่ายเงินดังกล่าวไปแล้ว
           กรณีที่เกิดขึ้นผู้ว่าการฯ วว. กลับไม่ได้ดำเนินการเอาผิด หรือสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาลงโทษตามระเบียบฯและกฎหมาย ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ที่กระทำการลงนามสั่งจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินดังกล่าวแต่อย่างใด กระทั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจลงนามสั่งจ่ายได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ที่กระทำการลงนามสั่งจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน ในการใช้จ่ายเงินสำหรับก่อสร้างอาคาร สำหรับการติดตั้งครุภัณฑ์เครื่องต้นแบบการสกัดและทำแห้งกึ่งอุตสาหกรรม มิได้ถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาลงโทษตามระเบียบฯและกฎหมาย เมื่อถึงคราวเกษียณอายุราชการออกไป สถาบันวิจัย วว. ก็ต้องจ่ายเงินตอบแทนการออกจากงานตามระเบียบค่าตอบแทนผู้ที่เกษียณอายุ เสมือนหนึ่งว่ามิได้กระทำความผิดใดๆ

          ขณะเดียวกัน ในความผิดในกรณีที่มีลักษณะดังกล่าวข้างต้น ผู้ว่าการฯ กลับไปมีคำสั่งเลิกจ้างลูกจ้างที่มีหน้าที่เขียนเช็ค ซึ่งมิใช่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงที่จะต้องเป็นผู้ลงนามซึ่งต้องรับผิดชอบในการกระทำความผิดดังกล่าว และสั่งให้เรียกให้ชดใช้เงินคืนสถาบันฯ จนลูกจ้างรายดังกล่าวต้องนำความไปฟ้องร้องในศาลอาญาแผนกคดีทุจริตฯในขณะนี้
          “พฤติการณ์ดังกล่าวของผู้ว่าการฯ วว. อาจเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมได้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนสอบสวนตามครรลองของกฎหมายต่อไป” นายศรีสุวรรณ ระบุ.
Advertisement