วันที่ 4 มิถุนายน 64 ที่ จ.มุกดาหาร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความส่วนตัวของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล มาดำเนินการยื่นเรื่องขอประกันตัวลุงหลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่หลานสาว โดยเตรียมเงินสด 5 แสนบาท โฉนดที่ดินของแฟนคลับลุง มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท
นายษิทรากล่าวว่าหลังจากนี้ตนจะยื่นเรื่องขอประกันตัวลุงพลทันที โดยให้เหตุผลต่อศาลว่าลุงพลไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์ข่มขู่ แต่หากศาลจะหยิบยกเรื่องที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ที่ทำเรื่องคัดค้านขอไม่ประกันตัวก็พร้อมที่จะเบิกพยานขึ้นไต่สวน คือภรรยาของลุงและยูทูบเบอร์ อย่างน้อย 3 ปาก ในประเด็นที่ชี้ให้ศาลเห็นว่าลุงพลไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนีและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ทั้งนี้ตนไม่อยากพูดว่ามั่นใจหรือไม่ อยากให้รอฟังความชัดเจนพร้อมกัน
ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า การให้สัมภาษณ์ของตนเข้าข่ายยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ความจริง ส่วนที่ตำรวจบอกว่ามีหลักฐานเด็ดที่นำมาใช้ ก็ขอให้นำออกมาเพราะก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่ามีหลักฐานเด็ด แต่เปิดมาเป็น DNA พอตนแย้งไป ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน โดยวันนี้ศาลจะใช้เวลาในการพิจารณาคำร้อง คาดว่าจะใช้เวลาทั้งวันว่าลุงพลจะได้ประกันตัวหรือไม่ ถ้าหากศาลไม่ได้ประกันตัวก็จะเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อ และทำเอกสารให้ละเอียดมากขึ้น แต่ถ้าหากก็ได้ปล่อยตัวชั่วคราว ลุงพลยินดีที่จะใส่กำไลอีเอ็ม จึงขอความเมตตาต่อศาลให้อิสรภาพลุงพลมาต่อสู้ข้างนอก
ด้านนางสาวิตรีกล่าวว่าวันนี้ได้เดินทางไปที่โกศของน้องชมพู่ ที่วัดถ้ำภูผาแอกเพื่อนำพวงมาลัยไปไหว้และจุดธูปขอกำลังใจจากน้องและอธิษฐานขอให้วันนี้การคัดค้านการประกันตัวลุงพลเป็นไปด้วยดี ก่อนเดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหารพร้อมพยานในคดี ขอให้ศาลเมตตาครอบครัวในวันนี้เพราะพฤติกรรมของลุงพลรุนแรง กลัวความไม่ปลอดภัย ยอมรับว่ากังวล แต่เชื่อมั่นในตำรวจ พร้อมระบุถึงการให้สัมภาษณ์ของทนายลุงพลว่าผู้นำทัพก็ย่อมปลุกใจทหาร
