วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 64 ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง พร้อมด้วยนายภาณุพงศ์ จาดนอก เดินทางมาหลังอัยการนัดฟังคำสั่งในคดีชุมนุมในวันที่ 19 และ 20 กันยายนที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์และสนามหลวง ในข้อหามาตรา 112 ข้อหามาตรา 116 และมั่วสุมกันตั้งแต่ 16 คนขึ้นไป
น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า สำหรับวันนี้กำลังใจดีมาก ไม่มีความกังวลใจอะไรเลย เรามองว่าทิศทางในวันนี้เชื่อว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คดีจะออกมาเป็นเหมือน 4 แกนนำราษฎรที่ถูกฝากขังไปก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังมีความหวังอยู่ 20 เปอร์เซ็นต์ว่าคำสั่งของศาลและอัยการจะอยู่บนหลักการของกระบวนการยุติธรรม
ส่วนการชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นบทเรียนมาก เราได้ถอดบทเรียนจากครั้งนี้ ว่ามันปัญหามีอะไรและจะต้องจัดการอย่างไร การดูแลความปลอดภัยจะต้องรัดกุมขึ้นในการชุมนุมครั้งต่อไป รวมถึงจะตั้งทีมสันติวิธีในการดูแลและให้ข้อมูลกับกลุ่มผู้ชุมนุม
ด้านนายภาณุพงศ์ กล่าวว่าสำหรับวันนี้แม่ของตนอาจจะไม่สบายใจ แต่ว่าแม่ก็ได้บอกว่าภูมิใจที่ลูกยังอยู่ในสิ่งที่ถูกต้องตามที่มันควรจะเป็น ตอนนี้เรามีกำลังใจที่ดีมาก จริง ๆ แล้วจะใส่ชุดที่ออกมาจากเรือนจำด้วยซ้ำ แต่ว่าเกรงใจศาล
ทั้งนี้ถ้าหากวันนี้ไม่ได้มีการปล่อยตัว ตนจะไม่ฝากถึงผู้ชุมนุมหรือใคร เพราะทราบดีว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะรู้ว่าจะต้องเดินทางไปในทิศทางไหนอยู่แล้ว ทั้งนี้ในการชุมนุมวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ก็ได้ทราบมาว่า มีกลุ่มของผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัด ได้ติดต่อจองห้องพักกันไว้แล้ว ก็ต้องรอดูว่ามันจะบิ๊กเบิ้มมากแค่ไหน
ต่อมานายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ กล่าวว่า วันนี้ได้เตรียมใจไว้แล้ว ยืนยันที่จะต่อสู้ในกระบวนการที่ยุติธรรม เราเลือกที่จะต่อสู้ในเส้นทางนี้ ไม่ได้หวั่นไหว
สำหรับวันนี้ ผลการพิจารณาเป็นไปได้ทุกกรณี ในกรณีที่ไม่ให้ประกันมองว่าการกักกันเสรีภาพคงมีได้แค่ชั่วคราวและเป็นการกักกันเพียงแค่ร่างกายเท่านั้น แต่หัวใจยังโลดแล่นบนเส้นทางของเสรีภาพ เชื่อว่าพี่น้องที่อยู่ข้างนอก ยังต่อสู้ต่อไป ส่วนเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงหรือแต่งกายนอกเครื่องแบบเข้าไปยุยงเพื่อสร้างภาพให้เกิดความเสียหาย เรียกว่าสุนัขลอบกัด เป็นสุนัขรับใช้ ขอให้เลิกใช้วิธีสกปรกเช่นนี้ ขอให้หลังจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมอดทนอดกลั้นกับการยั่วยุของเจ้าหน้าที่
Advertisement