เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. พ.ต.ท.พิเชต ชมมณฑา พ.ต.ต.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.2 บก.ป.
พ.ต.ต.ปรัชญ์ แม้นเดช, พ.ต.ต.กฤษณะ เชิงยุทธ์, พ.ต.ต.ปิยบุตร มีแป้น สว.กก.สสน. บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมการบริษัท เอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ย่านรัชดาภิเษก อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 408/2565 ลงวันที่ 5 ก.ค.65 ข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำความผิดตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ” ได้ที่ บริเวณริมถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากนายอินทระศักดิ์ หรือ “บอย ยูนิตี้” ผู้ต้องหารายนี้ ประกอบกิจการนำเข้ารถหรู และเป็นเจ้าของกิจการเต็นท์รถชื่อดังย่านสุขุมวิทและรัชดา กลับมีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์และรถหรู (Luxury car) ด้วยวิธีการหลบเลี่ยงการชำระภาษี และสำแดงราคารถยนต์ให้ต่ำกว่าราคาตามท้องตลาด, รวมถึงลักลอบนำเข้ารถจดประกอบ ก่อนนำไปขายให้กับผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง และนักการเมือง ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐ และ ตัวลูกค้าที่ไม่สามารถนำรถไปขึ้นทะเบียนที่กรมการขนส่งอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ จึงมีการเข้าแจ้งความก่อนจะถูกตำรวจกองปราบตามจับกุมตัวได้เมื่อเดือน มิ.ย. 2560
อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล นายอินทระศักดิ์ ได้ยื่นเรื่องขอประกันตัวสู้คดี แต่เมื่อได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วกลับไม่ยอมมารายงานตัวตามนัดหมาย หรือ มีพฤติการณ์หลบหนี ก่อนที่ต่อมาศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาตัดสินจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมกับออกหมายจับจนนำมาสู่การตามจับกุมตัวอีกครั้งได้ดังกล่าว
สอบสวน นายอินทระศักดิ์ ให้การปฏิเสธ นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่า ยังมีหมายจับในความผิดอื่น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร, พ.ร.บ.เช็ค, และคดีอื่นตามประมวลกฏหมายอาญา จำพวก ฉ้อโกง บุกรุก และ ลักทรัพย์ รวมอีก 14 หมายจับ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง ศาลอาญาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
Advertisement