รวบแล้ว ฝาแฝด นักเรียนช่าง ตามประกบยิงวัยรุ่นดับขณะขับขี่ จยย. เพื่อเรียกดูหัวเข็มขัด อ้างป้องกันตัว ฝ่ายคนตายจู่โจมเข้าหาก่อน

        (5 พ.ย.66) ที่ สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ทำการจับกุม นายยศกร และนายยศพร อายุ 19 ปี 2 พี่น้องฝาแฝด ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงวัยรุ่นขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ เหตุเกิด บริเวณถนนอ่อนนุช ปากซอยอ่อนนุช 70 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมยึดอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์และชุดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ไว้เป็นหลักฐาน
         สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่วิทยุ สน.ประเวศ ว่ามีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดบริเวณถนนอ่อนนุช ปากซอยอ่อนนุช 70 ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายคูณทรัพย์ อายุ 19 ปี โดยนายสมภพ อายุ 19 ปี เพื่อนผู้ตาย ที่มาด้วยกัน ให้การว่าขณะตนขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายคูณทรัพย์นั่งซ้อนท้าย ขับขี่มาตามถนนอ่อนนุช เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักยานยนต์ตามมาประกบแล้วถามว่าเรียนอยู่ที่ไหน ตนจึงตอบว่าไม่ได้เรียนหนังสือ และกำลังจะไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า คนร้ายได้ขอดูหัวเข็มขัดสถาบันศึกษา นายคูณทรัพย์จึงเปิดให้ดูแล้วว่าไม่มีหัวเข็มขัด แต่คนร้ายที่เป็นคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์นั้นได้ชักอาวุธปืนออกมายิงนายคูณทรัพย์ จำนวน 1 นัด แล้วคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนนอ่อนนุช ขาเข้ามุ่งหน้าไปทางถนนศรีนครินทร์
          จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางของคนร้ายพบว่าคนร้ายทั้งสองคนได้ขับขี่รถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีขาวชมพู หมายเลขทะเบียน กรุงเทพ กทม. เจ้าหน้าที่จึงติดตามจากชื่อผู้ครอบครองรถ ซึ่งเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ และติดต่อพ่อของผู้ก่อเหตุ เพื่อให้พาบุตรชายทั้ง 2 คน มาสอบสวน ที่ สน.ประเวศ
        จากนั้นพ่อของผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ได้พาบุตรชายทั้ง 2 มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถาม นายยศกร แล้วให้การยอมรับว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ตนเองได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีขาวชมพู โดยมีนายยศพร (พี่ชาย) เป็นผู้ขับขี่ เมื่อขับขี่มาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุพบผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสองมา และมีปัญหาเขม่นกันกับฝ่ายคนตายเพราะมองหน้ากัน จึงได้ขับขี่ประกบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ระหว่างนั้น คนตายที่กำลังนั่งซ้อนท้าย อยู่ๆ ก็ลงจากรถแล้วพุ่งเข้ามาหาตน จึงได้ชักเอาอาวุธปืนขนาด .32 ที่เหลือกระสุนอยู่เพียง 1 นัด ออกมายิง และพากันขับขี่หลบหนี โดยเอาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ , ชุดที่สวมใส่ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ ไปซุกซ่อนไว้บริเวณท้ายซอยกิ่งแก้ว 37 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 คนกำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอให้นายยศกร กับนายยศพรนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจสอบในจุดที่ทิ้งของกลาง โดยมีพ่อของผู้ก่อเหตุ ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ
          เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ถูกจับน่าจะได้กระทำผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ถูกจับจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น และไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับได้ ตามมาตรา 78 (3) ประกอบมาตรา 66 (2) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ถูกจับ แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่าการกระทำของผู้ถูกจับเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และ ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement