เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.อ.สาธิต สมานภาพ ผกก.3 บก.รฟ. พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก.6 บก.ป. จับกุม นางลักศมีกานต์ ศิริตันหยง อายุ 62 ปี ชาว กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ 73/2565 ลงวันที่ 1 มี.ค. 2565 ข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น” ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มี นายพงษ์ศา เทพพิชัย อายุ 40 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ควนขนุน หลังทราบว่า ร.ต.อ.สุชีพ เทพพิชัย อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.ควนขนุน ผู้เป็นพ่อ และนางวรรณี เทพพิชัย อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแหลมโตนด ผู้เป็นแม่ ถูก น.ส.เปมิกา หรือ แป้ง (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี แฟนสาวของนายอริยะ หรือ เบส อายุ 30 ปี น้องชายตนเอง กับนางลักศมีกานต์ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.เปมิกา แอบเอายาเสพติดผสมในอาหารให้ผู้เป็นพ่อและแม่กินจนเกิดอาการหลอน เหมือนผู้ป่วยจิตเวช
โดยเรื่องดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงมกราคม 2563 หลังนายอริยะ หรือ เบส อายุ 30 ปี ได้รู้จักกับ น.ส.เปมิกา ผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนทั้ง 2 คนมีการพูดคุยสร้างความสนิทสนมจนถึงขั้นคบหากันเป็นแฟน ต่อมา น.ส.เปมิกา อ้างว่าครอบครัวเดือดร้อน จึงขอพานางลักศมีกานต์ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นแม่มาอาศัยอยู่ด้วย แต่หลังจากที่ทั้งสองเข้ามาอยู่ด้วย ร.ต.อ.สุชีพ และนางวรรณี พ่อและแม่ของนายอริยะ หรือ เบส ก็มีอาการผิดปกติ หวาดระแวง เซื่องซึม ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูด นอนไม่หลับ โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวเอง คนในครอบครัวจึงเริ่มผิดสังเกตุ เฝ้าจับตาพฤติกรรมของทั้งสอง จนพบว่าทั้งสองได้ร่วมกันนำยาเสพติดผสมในอาหารให้ ร.ต.อ.สุชีพ และนางวรรณีกินจนเกิดอาการหลอน ก่อนพยายามหลอกล่อให้ทำธุรกรรมทางการเงิน ทำประกันชีวิต รวมถึงพยายามร้องขอให้นายอริยะ หรือ เบส แต่งงานและจดทะเบียนด้วย จึงพยายามรวบรวมหลักฐาน แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้งสองเกิดไหวตัวทันชิงหลบหนีออกจากบ้านไปพร้อมกับเอกสารสำคัญของ ร.ต.อ.สุชีพ และนางวรรณี เช่น บัตรประชาขน บัตรข้าราชการ สำเนาทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา คนในครอบครัวจึงเร่งนำเรื่องเข้าแจ้งความจนมีการออกหมายจับ ก่อนที่ต่อมา น.ส.เปมิกา จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมตัวได้ขณะกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ คงเหลือเพียงนางลักศมีกานต์ ผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแกะรอยสืบหาเบาะแสจนทราบว่านางลักศมีกานต์ ได้หนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนนางลักศมีกานต์ ให้การปฏิเสธอ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง อีกทั้งช่วงที่อาศัยอยู่ร่วมด้วยตนและบุตรสาวยังคอยช่วยเหลือกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่เคยคิดทำเรื่องไม่ดีตามที่ถูกกล่าวหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวส่ง สภ.ควนขนุน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
Advertisement