เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 64 ตำรวจจับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในซอย 20 มิถุนา ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง จับกุมผู้จัดการและช่างเทคนิคชาวจีน 2 คน พนักงานคนไทย 7 คน และพนักงานทวงหนี้คนไทยอีก 53 คน พร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์ 62 เครื่อง โทรศัพท์มือถือที่ใช้ทวงหนี้ 47 เครื่อง
พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผบ.ตร.กล่าวว่า ศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบได้ติดตามการทำงานของกลุ่มคนร้ายรายนี้มานานพอสมควร หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการปล่อยกู้ยืมเงินผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถทวงหนี้ได้ต่อคนต่อครั้งไม่น้อยกว่าหลักร้อยครั้งกว่าหลายสิบแอพ มีการปล่อยกู้ยืมหลักพันถึงหลักหมื่นบาท โดยจะขอบัตรประชาชนบัญชีเงินฝากและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ
ทั้งนี้จะมีรูปแบบปล่อยกู้เงินเช่น กู้ 2,000 บาท จะได้เงินจริง 1,300 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 35 ต่อสัปดาห์ หากไม่คืนเงินจะโทรศัพท์ไปประจานให้เกิดความเสียหายอับอาย โดยพนักงาน 1 คน จะทวงหนี้ลูกหนี้ 140 คน หรือรวมเป็น 8,600 คนต่อวัน รวมยอดเงินวันละ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังต้องขยายผลจับกุมกลุ่มพนักงานทวงหนี้ที่เหลือ เพราะพบว่ามีการทำงานจากที่บ้านด้วย
ทั้งนี้จากการสืบสวนเชื่อว่ายังมีเครือข่ายลักษณะเดียวกันอีกหลายพื้นที่ เพราะมีหลายกลุ่ม ที่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ ยังมีในละแวกใกล้เคียง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครือข่ายชาวจีน ซึ่งการจับกุมวันนี้เชื่อว่าจะเป็นรายใหญ่ที่สุด พบความเคลื่อนไหวมาประมาณ 3 เดือน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาได้เช่าเหมาชั้นทำออฟฟิศไว้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเครือข่ายเหล่านี้จะมีชาวจีนเข้ามาวางระบบก่อนและให้พรรคพวกบริหารจัดการต่อ บางส่วนเข้ามาบริหารจัดการเองแต่ติดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เดินทางออกนอกประเทศไม่ได้
พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. กล่าวเพิ่มว่าเหตุที่เป็นชาวจีน เพราะเป็นโปรแกรมที่ใช้นั้นเป็นของชาวจีนคิดค้น ซึ่งคนที่จะใช้โปรแกรมทำแอพพวกนี้ จะอยู่ที่ประเทศจีน ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านรอบข้างไทย ยังมีกลุ่มผู้ต้องหาในลักษณะเดียวกันอีกหลายแห่ง
Advertisement