วันที่ 14 ก.พ.64 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป.พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. เข้าจับกุมน.ส.สุนิสา วรศิริ อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ132/2563 ลง 20 ส.ค.2563 ข้อหา“ฉ้อโกง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ”
จากการจับกุมทราบว่า เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ขณะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ทำให้มีความต้องการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ใจบุญที่คอยช่วยจัดหาซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อนำไปบริจาคให้กับบุคลากรทางการแพทย์หรือกลุ่มคนที่ขาดแคลน น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายซึ่งเป็นพยาบาลอยู่ที่ จ.อุทัยธานี ได้ติดต่อซื้อหน้ากากอนามัยกับ น.ส.สุนิสา ผู้ต้องหา หลังพบประกาศขายหน้ากากอนามัยผ่านเฟซบุ๊ค ผู้เสียหายได้โอนเงินไปประมาณ 2 หมื่นบาท แต่กลับไม่ได้รับสินค้าและไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้อีก นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายหนึ่งที่ต้องการจะนำหน้ากากอนามัยไปบริจาคให้กับบุคลากรทางการแพทย์และชุมชนที่ขาดแคลนในจ.ลำปาง ก็ถูกหลอกให้โอนเงินค่าหน้ากากอนามัยไปอีก 6 หมื่นบาท แต่ก็ไม่ได้รับของจนต้องมีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้ง จนกลุ่มผู้เสียหายที่เคยถูกหลอกต้องตั้งกลุ่มเพื่อประชาสัมพันธ์และเตือนภัยไว้ที่สื่อออนไลน์จำนวนมาก กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ม.6 ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จึงเข้าจับกุมดังกล่าว
สอบสวน ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ ว่าร่วมกันกับเพื่อนหลอกลวงผู้เสียหายหลายรายจริง โดยเพื่อนของตนจะทำหน้าที่โพสต์หลอกขายหน้ากากอนามัยผ่านเฟซบุ๊ค แต่ใช้ชื่อและรูปของตน ส่วนตนมีหน้าที่คอยเปิดบัญชีธนาคารไว้สำหรับใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน และคอยไปกดเงินสดออกมาแบ่งกับเพื่อน โดยตนจะได้รับส่วนแบ่งค่ากดเงินครั้งละ 800 – 2,000 บาท ซึ่งช่วงที่อุปกรณ์ฯขาดแคลนหนักๆ แค่เพียง 1 สัปดาห์ มีเงินโอนเข้าบัญชีที่ใช้หลอกเหยื่อมากกว่า 3 แสนบาท เงินที่ได้มาก็นำไปใช้จ่ายส่วนตัว แค่หลังจากที่ตนทราบว่าถูกแจ้งความ จึงรีบหยุดก่อเหตุ กระทั่งมาถูกจับกุมจนได้ในที่สุด ภายหลังการสอบสวนจึงส่งผู้ต้องหาให้ สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ดำเนินคดีต่อไป
Advertisement
