รวบบริษัทหลอกทำวีซ่าจัดหางานต่างประเทศ เหยื่อ 45 ราย เสียหาย 4.5 ล้าน

         วันที่ 13 พฤศจิกายน 63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีการแถลงจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเปิดบริษัทจัดทำวีซ่า และหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ คือ บริษัทคิงดอม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในฐานะนิติบุคคล และกรรมการบริษัทอีก 3 ราย น.ส.ณัฐพัฒน์ หรืออะชิ อัครเดชไชย นายพชร หรืออาร์ม วชิรมโน น.ส.จีรนันท์ หรือบิ๊ก มนัสทิพารมณ์
           ร.ต.อ.ชยกร คำมิ่งเดชาโชติ รอง สว.กก.1 บก.ปคม. กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 45 ราย ส่วนใหญ่เป็นประชาชนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน รวมตัวกันมาที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท คิงดอม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในข้อหาร่วมกันหลอกลงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยหลอกลวงเช่นว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สิน หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 4.5 ล้านบาท
         เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “Visa ข่าวสารต่างประเทศ” ลงโฆษณารับสมัครไปทำงานต่างประเทศ จากนั้นได้มาจดทะเบียนเปิดบริษัทชื่อ kingdom Corporation Ltd เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “Kingdom and Travel รับยื่นวีซ่าอเมริกา วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่าอังกฤษ”มาตอบสนองการจัดทำวีซ่าไปต่างประเทศ โดยลงโฆษณาจัดหางาน ด้วยการโพสต์เฟซบุ๊ก ชักชวนให้คนไปทำงาน สร้างความน่าเชื่อถือ ด้วยการไปเช่าพื้นที่อาคารที่มีชื่อเสียง หรือหมู่บ้านหรูเป็นสำนักงานบริษัท โพสต์รูปการทำงาน โพสต์รูปเงินทอง หรือหลอกลวงว่ารายได้ดี งานสบาย เมื่อมีแรงงานหลงเชื่อติดต่อไป ก็จะมีการขอค่าดำเนินการต่าง ๆ และค่าเครื่องบิน รวมประมาณ 10,000 ถึง 20,000 บาทต่อคน ต่อมามีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ละประเทศห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ จึงไม่มีใครได้ไปทำงานที่โฆษณา แต่ทางบริษัทคิงดอมฯ กลับไม่คืนค่าดำเนินการให้ผู้เสียหาย
           พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับผลการปราบปรามการแสวงหาประโยชน์จากประชาชนโดยมิชอบในการจัดหางาน โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่มีผู้ตกงานจำนวนมาก ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพ ใช้สื่อสังคมออนไลน์ โฆษณาหลอกลวงให้มีการไปทำงานต่างประเทศ
           โดยระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน 2563 ได้มีการตรวจสอบเป้าหมายสืบสวนพิสูจน์ตัวบุคคล รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อระบุตัวบุคคล และพบเป้าหมายกว่า 197 เป้าหมาย และระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2563 สามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้กว่า 130 คดี ในข้อหาโฆษณาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งศาลพิพากษา ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท โดยให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ทุกคดี

           ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวย้ำเตือนไปยังผู้ที่จะไปทำงานในต่างประเทศ ให้รับรู้ถึงแผนประทุษกรรม เพื่อให้สามารถป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อได้ โดยสามารถหาข้อมูลบริษัทจัดหางานที่ถูกต้องได้ที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
           อย่างไรก็ตาม จากสถิติของกรมการจัดหางาน ช่วงปี 2561 ถึง 2563 ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์เกี่ยวกับการหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศกว่า 1,500 เรื่อง และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 100,000,000 ล้านบาท อีกทั้งกรณีลักษณะดังกล่าวถือเป็นต้นตอของการค้ามนุษย์เนื่องจากเคยมีผู้เสียหายหญิงหลายรายเคยถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศและถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวบังคับให้ไปค้าประเวณีอย่างโหดร้ายทารุณ
Advertisement