วันที่ 17 ตุลาคม ด้านพลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ในการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม จำเป็นต้องมีการจัดการจราจรผ่านระบบขนส่งมวลชนต่างๆ โดยสถานีรถไฟฟ้า BTS จะมีการปิดให้บริการรวม 14 สถานี ตั้งแต่สถานีอารีย์ สนามเป้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พญาไท ราชเทวี สยาม ชิดลม เพลินจิตนานา อโศก พร้อมพงศ์ สนามกีฬาแห่งชาติราชดำริ และศาลาเเดง ซึ่งจะเริ่มปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 14. 30 น. ส่วนสถานีรถไฟใต้ดินมีการปิดให้บริการเส้นทางสายสีน้ำเงินทั้งสาย ตั้งแต่เวลา 12.30 น. ส่วนสายสีม่วงยังให้บริการได้ตามปกติ ส่วนสถานีแอร์พอร์ตเรลลิงค์ จะปิดแค่สถานีพญาไทเท่านั้น
ส่วนการจราจรพื้นราบ จะมีการปิดการจราจร 2 สถานที่ คือ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และที่แยกอโศก-เพชรบุรี โดยการปิดการจราจรพื้นราบจะพิจารณาปิดตามสถานการณ์จริงเท่านั้น ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลใกล้จุดที่มีการปิดการจราจร ได้กำหนดเส้นทางเลี่ยงให้เข้าไปบริเวณด้านหลังของโรงพยาบาลแทนแล้ว ด้านการใช้ทางด่วนลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังสามารถใช้การได้ แต่จะไม่สามารถเข้าไปในวงเวียนได้หากมีการปิดการจราจรไปแล้ว จึงแนะนำประชาชนที่ต้องเดินทางผ่าน 2 จุดนี้ ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือตรวจสอบเส้นทาง ก่อนออกเดินทาง
ทั้งนี้การเลือกปิดเส้นทางดังกล่าวเป็นเพียงสมมติฐานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจมีการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว แต่หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงก็จะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการต่อไป พร้อมย้ำว่าจะมีการจัดการจราจรเพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนให้น้อยที่สุด
ด้านตัวแทนโรงพยาบาลตำรวจ ได้รับตำรวจมาดูแลรักษาพยาบาลแล้ว 5 นาย จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 1 นาย และวันที่ 16 ตุลาคมอีก 4 นาย ส่วนประชาชนได้กระจายไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ รวม 3 คน ซึ่งทั้งหมดแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว ส่วนเรื่องสารเคมีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นแก๊สน้ำตาหรือไม่ ยอมรับว่ายังไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด ขอเวลาตรวจสอบก่อน ทราบแต่ว่าเป็นสารเคมีที่ใช้ในการควบคุมฝูงชนทั่วโลก ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หลังจากนี้อาจให้เจ้าหน้าที่เทคนิคชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้ง
Advertisement