เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ อายุ 54 ปี อาชีพพ่อค้าไก่ย่างส้มตำ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ภูสิทธิ์ บุญแสง รอง สว.สอบสวน กก.3 บก.ปปป. เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่ถูกตำรวจ สน.บางเสาธง ยัดข้อหาชิงทรัพย์ จนเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีเป็นแพะติดคุกอยู่นาน 7 เดือน 10 วัน ทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิด ก่อนต่อมาศาลชั้นต้นและอุทธรณ์จะตัดสินยกฟ้อง
นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2560 ขณะที่กำลังขายไก่ย่างส้มตำอยู่หน้าห้องเช่าในพื้นที่ จ.นครพนม ได้ถูกตำรวจ สน.บางเสาธง เข้าจับกุมตัว อ้างว่าตนเป็นคนร้ายในคดีวิ่งราวทรัพย์แหวนเพชร 3 วง และ เพชรแฟนชี 17.34 กะรัต 1 เม็ด มูลค่ารวม 15.8 ล้านบาทเศษ ทั้งๆที่ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งตนก็พยายามชี้แจงอธิบายไปแล้วว่าไม่ใช่ รวมถึงยืนกรานปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ จนทำให้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ระหว่างการพิจารณาคดีเป็นเวลา 7 เดือน 10 วัน จนกระทั่งศาลอาญาธนบุรีพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 จึงได้รับการปล่อยตัวสู่อิสรภาพ
นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า แม้จะได้เงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม มาจำนวน 2 แสนบาท แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความเสียหายทั้งชื่อเสียงตัวเองและวงศ์ตระกูล และความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้ ในวันนี้จึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องขอความเป็นธรรมเพื่อขอให้ดำเนินคดีเอาผิดกับตำรวจชุดทำคดีดังกล่าวของ สน.บางเสาธง ตามมาตรา 157 เนื่องจากตนทราบว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้พยายามที่จะปิดสำนวนให้เร็วที่สุด โดยไม่คำนึงถึงความจริง ซึ่งในวันเกิดเหตุก็ไม่ได้มีการแจ้งประสานกองพิสูจน์หลักฐานให้มาช่วยเก็บลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ และไม่ได้แจ้งเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบทั้งๆ ที่ทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายมีมูลค่าสูง นอกจากนี้ยังมีข้อบกพร่องอื่นๆในการทำคดีอีกหลายประเด็นจนทำให้ตนเองต้องกลายเป็นแพะรับโทษทางคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป
Advertisement