เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 64 นายกะสอน พิมพ์แก้ว พ่อค้าไก่ย่าง วัย 56 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนโดนรถเก๋งพุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงขายไก่ย่างของตน บนถนนสุคนธสวัสดิ์ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา 2 จนทำให้คนที่ยืนซื้อไก่ย่างถูกอัดก๊อปปี้เเละกระเด็นกันไปคนละทิศละทาง ทั้งนี้ภาพวงจรปิดที่จับได้พบคนขับรถนั่งมากับเเฟนสาวก่อนจะรีบลงรถมายกมือไหว้ขอโทษเเละถามอาการกลุ่มคนที่ถูกชนเหล่านี้ โดยบางช่วงบางตอนฝ่ายขับรถชนพูดว่าตนทะเลาะกับเเฟนจึงทำให้รถชนอีกด้วย
ทั้งนี้นายกะสอนนอนบาดเจ็บติดเตียง เเขนขวาหัก ขาหักทั้ง 2 ข้าง โดยเหตุเกิดคืนวันที่ 24 ต่อเนื่อง 25 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณตี 2 ขณะกำลังขายไก่ย่างให้กับลูกค้า 4-5 คน จู่ๆ ไม่ทันตั้งตัวก็มีรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนเต็มเเรง ก่อนตนจะหมดสติไป เบื้องต้นทราบว่าคนขับรถเป็นหญิงนั่งมากับเเฟนสาวก่อนทั้งคู่จะมีปากเสียงกันและเเย่งพวงมาลัย ก่อนรถจะพุ่งมาชนดังกล่าว
ทั้งนี้แม้ค่ารักษาพยาบาลประกันฝ่ายคู่กรณีจะเป็นผู้ชำระ เเต่เมื่อกลับมาพักฟื้นที่บ้านทุกสัปดาห์หมอก็จะนัดไปรับยาเเละติดตามอาการ มีค่ารักษารายครั้ง ครั้งละ 1,000 -2,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเงินเก็บของพวกตนที่ถูกนำออกมาใช้ทั้งหมด จนถึงตอนนี้ตนเเละภรรยาก็เเทบจะหมดตัวกันเเล้ว
ด้านนางนา ทุอุดม อายุ 48 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ บอกว่าหลังเกิดเหตุคู่กรณีไม่เคยมาดูเเลหรือเยี่ยมเยียนใดๆ อ้างเพียงว่าไม่มีเงิน ขอให้ประกันเป็นคนจัดการทั้งหมด ซึ่งประกันของคู่กรณีก็เป็นบริษัทใหญ่ที่รู้จักกันดี เมื่อวันก่อนนัดไกล่เกลี่ยพูดคุย พวกตนจึงขอเงินสดจำนวนหนึ่งเพื่อใช้จุนเจือตัวเองในระหว่างที่สามีไม่สามารถออกไปขายของได้ ด้วยอาการบาดเจ็บที่หมอระบุต้องนอนติดเตียงเบื้องต้น 3-4 เดือน และรถพ่วงปิ้งไก่ที่พังยับ อยู่ระหว่างซ่อมเเซม ส่วนตนต้องคอยดูเเล เเต่ประกันกลับปฏิเสธไม่ให้เงิน พร้อมบอกว่าต้องรอให้หายดีก่อน จึงจะประเมินเงินเยียวยาได้
อยากถามกลับว่ากว่าจะหายดีตามที่เขาบอก พวกตนที่ขาดรายได้เเละใช้เงินเก็บกันอยู่ ต้องใช้ชีวิตอย่างไร ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาดูเเลตัวเองก่อนหรือ
ขณะที่ตำรวจ สน.โชคชัยเองก็ระบุว่าได้นัดไกล่เกลี่ยระหว่างคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเเล้ว 2 ครั้ง เเต่เบื้องต้นยังติดปัญหาจากบริษัทประกันที่ระบุต้องการเอกสารจากฝั่งผู้เสียหายจำนวนหลายคน ส่วนด้านคดีนั้น สอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ขณะนี้รอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์โรงพยาบาลเปาโลที่ผู้บาดเจ็บเข้ารักษา เนื่องจากจะมีผลกับการแจ้งข้อหาว่าโทษจะหนักขึ้นหรือไม่ เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ก่อนเตรียมสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการต่อไป
Advertisement