ผู้ปกครองร้องกองปราบ แจ้งจับโมเดลลิ่งสาวสอง อ้างพาเข้าวงการบันเทิง ตุ๋นหลอกเงินค่าดำเนินการ เหยื่อหลงกลร่วมครึ่งร้อย

          เมื่อเวลา 09.30 วันที่ 20 ก.พ. ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายปิยณัฐ สุกยัง หรือ ทนายเจ เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.ยุพดี ลาภพณิชพูลผล อายุ 48 ปี พร้อมผู้เสียหายรายอื่นๆ เข้าพบ ร.ต.อ.ธีรเดช อรุณนพรัตน์ รอง.สว.สอบสวน กก.1.บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิด นาย”ดาด้า” หรือ ชินจัง อายุ 33 ปี โมเดลลิ่งรายหนึ่ง อ้างพาเข้าวงการบันเทิง ก่อนหลอกเงินค่าดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 50 ราย เสียหายร่วมล้านบาท

         น.ส.ยุพดี กล่าวว่า ตนมีลูกสาวอายุ 16 ปี และ ลูกชายอายุ 8 ปี ได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่งรายนี้ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง อ้างว่าสามารถฝากลูกของตนทั้งสองคนให้เข้าวงการเดินแบบ ถ่ายแบบเล่นมิวสิควีดีโอ ถ่าย MV ได้ หากสนใจก็ให้มาทดลองเดินแบบที่สตูดิโอแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 42 เมื่อไปถึงพบเพียงหญิงสาวที่ชื่อ เพียงพิศ หรือ พลอย และเจ้าหน้าที่ช่างภาพจำนวนหนึ่ง มาถ่ายรูปให้ ก่อนเรียกเก็บเงินค่าถ่ายรูป 3,600 บาท ซึ่งตอนนั้นยังไม่เอะใจอะไร ต่อมา โมเดลลิ่งคนดังกล่าวได้ติดต่อมาหาอีกครั้งอ้างว่าบุตรสาวของตนได้งานแล้ว ก่อนทำทีแนะนำว่าจำเป็นต้องซื้อรองเท้าบูทอุปกรณ์เสื้อผ้า ข้าวของอื่นๆ เพิ่มเติม โดยจะเป็นผู้ดำเนินการให้ เพียงแค่ให้ตนโอนเงินค่าใช้จ่ายสิ่งของเหล่านี้ไปให้ รวมเป็นเงินเกือบ 2 หมื่นบาท ด้วยความไว้ใจจึงยอมทำตาม แต่เมื่อถึงกำหนดบุตรสาวของตนกลับไม่ได้รับงานตามที่มีการกล่าวอ้าง รวมถึงของใช้ต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บเงินไปนั้นก็ไม่มีการสั่งซื้อจริง จึงรู้ตัวตัวว่าถูกหลอก ก่อนจะมาทราบภายหลังว่านอกจากตนแล้วยังมีเหยื่อรายอื่นๆถูกหลอกในลักษณะเดียวกันกว่า 50 ราย รวมมูบค่าความเสียหายหลักล้านบาท

         ด้าน นายปิยณัฐ หรือ ทนายเจ กล่าวว่า พฤติการณ์ของโมเดลลิ่งรายนี้ถือเป็นภัยต่อสังคม เพราะเอาความฝันของเด็กๆมาใช้เป็นจุดอ่อนเพื่อหลอกลวงเงิน วันนี้จึงตัดสินใจพากลุ่มผู้เสียหายมาเข้าแจ้งความกับทางกองปราบฯ เพื่อเอาผิดกับโมเดลลิ่งรายนี้ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุหลอกลวงเงินจากเหยื่อรายใหม่เพิ่มอีก

         เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ไว้ ก่อนนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป