วันที่ 14 ตุลาคม ผู้ชุมนุมคณะราษฎร 2563 ได้ช่วยกันยกสวนที่ตั้งไว้ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยออก โดยในช่วงชุมนุมนั้นมีการปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมกับคนใส่เสื้อเหลือง โดยกำลังตำรวจได้เตรียมรั้วลวดหนามและรถเมล์ขวางการเดินเท้าไปทำเนียบรัฐบาล ขณะที่บริเวณโดยรอบก็มีคนใส่เสื้อเหลืองเดินทางมาชุมนุม
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน หรือกปปส.ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยเองก็เดินทางมาตรงแยกผ่านฟ้าลีลาศ ยืนยันว่าการเดินทางมาวันนี้ของพวกตนเพื่อมารอรับและส่งขบวนเสด็จ มาในฐานะพสกนิกรประชาชน ไม่ได้มีเจตนาต้องการมาปะทะหรือเผชิญหน้ากับฝ่ายรวมทั้งไม่คิดท้าทายใครทั้งสิ้น ส่วนใหญ่พวกตนที่มาก็มีเเต่สุภาพสตรีเเละผู้สูงอายุ ก็ไม่มีใครคิดจะมาทำร้ายใครแน่นอน เเละก็เชื่อว่าฝ่ายอื่นๆ ที่มีอุดมการณ์ก็จะไม่ทำสิ่งไม่ดีเช่นกัน จึงไม่จำเป็นต้องกังวลใจ
โดยที่นัดหมายมาตรงนี้เพราะเป็นที่รู้จัก และสถานที่กว้าง สะดวก ทั้งนี้ตัวเองไม่ประสงค์จะพูดจาให้กระทบกระเทือนจิตใจหรือทำให้ใครไม่สบายใจ แต่มองว่าปัญหาประเทศมีเยอะเเล้ว ต้องช่วยกันแก้ปัญหา เพราะความวุ่นวายมีเเต่ส่งผลเสียต่อประเทศ พร้อมทั้งปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับภาพเหตุการณ์ที่มีการเผยแพร่ว่ามีคนใส่เสื้อเหลืองชุดคล้ายกับจิตอาสาถูกบรรทุกอยู่บนรถกระบะจำนวนมาก และตัวเองก็ยังไม่เห็นภาพนี้
ขณะเดียวกันส่วนตัวมองว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคนดี และเจตนาที่มาเป็นนายกเพราะต้องการมาเเก้ปัญหาในประเทศชาติ ส่วนประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่าจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์หรือไม่นั้น ตนมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คนไทยต้องช่วยกันพิจารณาและตัดสิน ว่าข้อดีข้อเสียอยู่ตรงไหน ซึ่งโดยปกติการจัดทำประชาพิจารณ์หรือไม่ก็เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว อยากให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ
Advertisement
